ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
การเสวนาไต้หวัน - อินเดีย ครั้งที่ 4 เปิดฉากขึ้น ณ เมืองมุมไบ ซึ่งคณะกรรมการกิจการทางทะเลของไต้หวัน ได้รวบรวมคณะตัวแทนเข้าร่วม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางทะเลระหว่างกันในเชิงลึก
2025-10-31
New Southbound Policy。การเสวนาไต้หวัน - อินเดีย ครั้งที่ 4 เปิดฉากขึ้น ณ เมืองมุมไบ ซึ่งคณะกรรมการกิจการทางทะเลของไต้หวัน ได้รวบรวมคณะตัวแทนเข้าร่วม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางทะเลระหว่างกันในเชิงลึก (ภาพจากคณะกรรมการกิจการทางทะเล)
การเสวนาไต้หวัน - อินเดีย ครั้งที่ 4 เปิดฉากขึ้น ณ เมืองมุมไบ ซึ่งคณะกรรมการกิจการทางทะเลของไต้หวัน ได้รวบรวมคณะตัวแทนเข้าร่วม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางทะเลระหว่างกันในเชิงลึก (ภาพจากคณะกรรมการกิจการทางทะเล)

คณะกรรมการกิจการทางทะเล วันที่ 30 ต.ค. 68

ความร่วมมือระหว่างไต้หวัน – อินเดียในปัจจุบัน ก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 แล้ว เมื่อช่วงที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนไต้หวัน-เอเชีย (Taiwan-Asia Exchange Foundation, TAEF) และ “มูลนิธิ Observer Research Foundation” (ORF) คลังสมองของอินเดีย ได้จัด “การประชุมเสวนา ระหว่างไต้หวัน - อินเดีย” ประจำปีขึ้น ณ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตัวแทนในการเข้าร่วมการประชุมฝ่ายไต้หวัน นำโดยนางหวงเซี่ยงเหวิน รองประธานคณะกรรมการกิจการทางทะเลของไต้หวัน (OAC) ทั้งสองฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนกันในประเด็นความร่วมมือเชิงลึกแบบทวิภาคี และการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพในภูมิภาค โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งสองฝ่ายจะจับมือกันสร้างโอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจสีน้ำเงินต่อไปในอนาคต
 
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 เป็นต้นมาที่มีการจัดตั้งกลไกความร่วมมือระหว่างไต้หวัน - อินเดีย ปัจจุบันได้พัฒนาจนกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสำคัญของการแลกเปลี่ยนแบบทวิภาคี ซึ่งการประชุมประจำปีได้เวียนจัดขึ้นทั้งในไต้หวันและอินเดีย โดยในปีนี้ประจวบกับเป็นวาระครบรอบ 30 ปีแห่งการจัดตั้งสมาคมอินเดีย - ไต้หวัน และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำอินเดีย จึงได้กำหนดจัดการประชุมในครั้งนี้ขึ้นในช่วงสัปดาห์กิจการทางทะเลของอินเดีย (India maritime week)
 
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผัน การเสริมสร้างความร่วมมือแบบทวิภาคี จึงถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญยิ่ง ไต้หวันถือเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่สำคัญของอินเดีย ส่วนอินเดียก็สวมบทบาทสำคัญใน “นโยบายมุ่งใต้ใหม่ Plus” ของไต้หวัน และยุทธศาสตร์อินโด – แปซิฟิก ในระหว่างการประชุม Mr. Harsh V. Pant รองประธานมูลนิธิ ORF และนายเซียวซินหวง ประธานคณะกรรมการบริหาร TAEF ต่างร่วมกันทำหน้าที่เป็นประธาน เพื่อนำพาผู้เข้าร่วมย้อนรำลึกความสัมพันธ์ทางความร่วมมืออันดีแบบทวิภาคี ระหว่างไต้หวัน - อินเดีย ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ซึ่งขอบเขตความร่วมมือแบบทวิภาคี ครอบคลุมในภาคอุตสาหกรรมหลากหลายสาขา
 
รองประธานหวงฯ กล่าวว่า ไต้หวัน – อินเดีย เดินหน้าสร้างความร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นมาเป็นเวลายาวนาน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและวัฒนธรรม ทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นหุ้นส่วนสำคัญในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก หวงฯ เน้นย้ำว่า ท้องทะเลเป็นอาณาเขตความร่วมมือรูปแบบใหม่ที่เปี่ยมซึ่งศักยภาพ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจสีน้ำเงิน ความมั่นคงทางทะเล และการอนุรักษ์ทางทะเล เป็นต้น ที่แฝงไว้ซึ่งโอกาสความร่วมมือมากมาย หวงฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไต้หวันให้ความสำคัญต่อความมั่นคงทางทะเลและการพัฒนาที่ยั่งยืน และมีความมุ่งมั่นในการผลักดันการตรวจสอบทางเทคโนโลยี การบริหารทรัพยากรทางทะเล การป้องกันมลพิษทางทะเล การบริหารจัดการขยะทางทะเล และเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยหวงฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายแสวงหาโอกาสทางความร่วมมือในประเด็นกิจการทางทะเล ผ่านการแบ่งปันประสบการณ์และการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์รูปแบบหุ้นส่วนสีน้ำเงินที่มีความยืดหยุ่นและครอบคลุม อันจะนำไปสู่การพัฒนาอนาคตเศรษฐกิจสีน้ำเงินที่มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิกต่อไป