กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 5 พ.ย. 68
เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก และการแลกเปลี่ยนบ่มเพาะบุคลากร เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 กระทรวงศึกษาธิการไต้หวันจึงได้จัด “การประชุมเอเปคว่าด้วยการเสริมสร้างศักยภาพสตรีและเยาวชน : การเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการดิจิทัลและส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ผ่านนวัตกรรมการศึกษา” (APEC Forum on Women and Youth Empowerment: Enhancing Digital Competitiveness and Inclusive Economic Growth through Innovative Enterprise Education) โดยได้ติดต่อเชิญตัวแทนเขตเศรษฐกิจเอเปค 19 ราย และเยาวชนไต้หวัน รวม 70 คน เข้ารวมตัวกันในกรุงไทเป เพื่อเปิดการแลกเปลี่ยนในหัวข้อที่หลากหลาย ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 วัน โดยการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ประเด็นนวัตกรรมและการศึกษาในยุคดิจิทัลของกลุ่มสตรีและเยาวชน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะบ่มเพาะบุคลากรที่มีความคิดสร้างสรรค์อย่างครอบคลุม ผ่านความร่วมมือของบรรดาเขตเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เพื่อพิชิตเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
นายเลี่ยวเกาเศียร อธิบดีกรมการอุดมศึกษาไต้หวัน กล่าวเปิดงานว่า ภายใต้กระแสการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล นวัตกรรมการศึกษาและการบ่มเพาะบุคลากร ถือเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันการขยายตัวที่ครอบคลุม การประชุมในครั้งนี้นอกจากจะสวมบทบาทเป็นแพลตฟอร์มการเสวนาแบบข้ามพรมแดนแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมความเชื่อมโยงทางนวัตกรรมการศึกษาและอุตสาหกรรม
การประชุมในครั้งนี้มีกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพ มอบหมายให้มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทเป (Taipei Tech) จัดขึ้น โดยตารางการประชุมประกอบด้วย การเสวนาด้านนโยบายในเชิงลึกและการแบ่งปันในกรณีเชิงปฏิบัติ ซึ่งในช่วงเช้าได้ติดต่อเชิญ Ms. Sarah Tong ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบัน Big Bang Academy และ Ms. Takara Small ผู้เขียนบทความด้านเทคโนโลยีของ CBC Radio & TV แคนาดา โดยได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การผลักดันการศึกษาและความเสมอภาคทางเพศ ภายใต้หัวข้อ “การเสริมสร้างศักยภาพของกลุ่มสตรีและเยาวชน” และ “การยกระดับศักยภาพทางการแข่งขันทางดิจิทัล และการขยายตัวเติบโตแบบครอบคลุม ผ่านนวัตกรรมการศึกษา”
ส่วนช่วงบ่ายเป็นการร่วมแบ่งปันนโยบาย โดยมีมหาวิทยาลัยหยางหมิงเจียวทง (NYCU) และมหาวิทยาลัยจงหยวน (CYCU) รับหน้าที่บรรยาย “โครงการบ่มเพาะบุคลากรการวิจัยพัฒนาที่เป็นสตรีและผู้เชี่ยวชาญด้าน STEM ในสถาบันอุดมศึกษา” และ “ความรับผิดชอบต่อสังคมของมหาวิทยาลัย (USR)” ส่วนการแบ่งปันทางภาคอุตสาหกรรม ตัวแทนภาคธุรกิจในด้าน FinTech , AI Wellness และ 5G ต่างเข้าร่วมอภิปรายเกี่ยวกับโมเดลการพัฒนาองค์กรธุรกิจในรูปแบบนวัตกรรมและครอบคลุม
วันที่ 2 ของการประชุมยังคงสืบสานหัวข้อที่หลากหลาย ด้วยการจัดการเสวนาในหัวข้อ “การประกอบธุรกิจของกลุ่มสตรีและการฝึกอบรมแบบบูรณาการ STEM” ด้วยการติดต่อเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าร่วมอภิปรายแนวทางการเผยให้เห็นศักยภาพผู้นำในยุคสมัยดิจิทัลของกลุ่มสตรี จากนั้นจึงได้จัดการเสวนาแบ่งปันประสบการณ์การประกอบธุรกิจของกลุ่มสตรี พร้อมทั้งติดต่อเชิญตัวแทนเกาหลีใต้ เม็กซิโกและนิวซีแลนด์ เข้าร่วมแบ่งปันนโยบายและผลสัมฤทธิ์ด้านการเสริมสร้างศักยภาพสตรีและเยาวชน
วันสุดท้ายของการประชุม ได้จัดให้คณะตัวแทนเข้าเยี่ยมชม Impact Hub Taipei เพื่อทำความเข้าใจกับประสบการณ์ด้านการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและนวัตกรรมทางสังคม