กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกีฬา วันที่ 5 พ.ย. 68
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (MOFA) และนายหลี่หยาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬาไต้หวัน (MOS) ร่วมจัดการประชุมสองรัฐมนตรีขึ้น ณ ที่ทำการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อจับมือกันผลักดันการทูตด้านการกีฬา นับเป็นครั้งแรกที่สองกระทรวงจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีขึ้น ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ นางหลิวปั๋วจวิน เอกอัครราชทูตผู้แทนพิเศษไต้หวัน นายอู๋จื้อจง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายเจิ้งซื่อจง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกีฬา ต่างก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
รมว.หลินฯ กล่าวว่า การทูตและการกีฬาต่างก็สามารถสร้างเสริมความสามัคคีให้แก่ภาคประชาชน จึงหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองกระทรวงเดินหน้าผลักดันการทูตการกีฬาอย่างกระตือรือร้น เพื่อแสดงเห็นจิตวิญญาณที่แกร่งกล้าของไต้หวันและสปิริตของนักกีฬา ตลอดจนเพื่อส่งเสริมให้ประชาคมโลกมองเห็นไต้หวัน และผลักดันให้ไต้หวันพัฒนาไปสู่ทิศทางที่ดียิ่งขึ้น รมว.หลินฯ เน้นย้ำว่า การกีฬาและการทูตของไต้หวัน อาจเผชิญหน้ากับการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมและแรงกดดันบนเวทีนานาชาติ อย่างไรก็ตาม พวกเราจะยังคงมุ่งมั่นในการคว้าสิทธิเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อรุกขยายพื้นที่นานาชาติที่กว้างมากยิ่งขึ้นให้แก่การทูตและการกีฬาของไต้หวัน
ในระหว่างการประชุมสองรัฐมนตรี ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารืออภิปรายกันในโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมหลายรายการ อาทิเช่น “โครงการบ่มเพาะบุคลากรด้านการกีฬาให้สำหรับ 3 ประเทศพันธมิตรในแถบพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิก” โดยมีสาระสำคัญที่ครอบคลุม “การจัดส่งโค้ชผู้เชี่ยวชาญเข้าช่วยฝึกอบรม” และ “การจัดการฝึกอบรมในต่างประเทศ” เป็นต้น ตลอดจนร่วมหารือกันในแนวทางการเตรียมความพร้อมและการประสานความร่วมมือ สำหรับเวทีการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติที่สำคัญ อย่าง “เอเชียนเกมส์ 2026” ที่มีกำหนดการจัดขึ้นที่นครนาโงยะของญี่ปุ่น และ “การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2028” ที่มีกำหนดการจัดขึ้นที่นครลอสแอนเจลิสของสหรัฐฯ ทั้งนี้ เพื่อสวมบทบาทในการให้สนับสนุนทัพนักกีฬาชาวไต้หวัน ขณะเดียวกัน ก็ยังได้อาศัยโอกาสการแข่งขันกีฬาระดับสากล ในการประชาสัมพันธ์ให้โลกมองเห็นไต้หวัน นอกจากนี้ ทั้งสองกระทรวงยังได้จับมือกันส่งเสริมความเสมอภาคด้านการกีฬา อาทิ การจัดรวบรวมคณะตัวแทนเข้าร่วมการประชุมสุดยอด “คณะทำงานการกีฬาของกลุ่มสตรีนานาชาติ” (The International Working Group on Women and Sport, IWG) ที่มีกำหนดการจัดขึ้นในเมืองเบอร์มิงแฮมของอังกฤษ ในช่วงระหว่างวันที่ 9 – 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2569 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและคุณประโยชน์ที่ไต้หวันมุ่งผลักดันในประเด็นความเสมอภาคทางเพศและการพัฒนาด้านการกีฬา
รมว.หลินฯ เน้นย้ำว่า “ทุกหน่วยงานล้วนเป็นสะพานเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” โดยเฉพาะหลายปีมานี้ “Team Taiwan” ได้สร้างผลสัมฤทธิ์ด้านการกีฬาที่โดดเด่นมากมาย ที่สามารถปลุกความฮึกเหิมให้แก่ภาคประชาชน ในระหว่างที่คณะตัวแทนนักกีฬาไต้หวันเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันในต่างประเทศ กต.ไต้หวันและสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในต่างประเทศ ต่างก็สวมบทบาทเป็นเกราะให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งแก่นักกีฬา ด้วยการส่งมอบความช่วยเหลือที่จำเป็น เพื่อให้พวกเขาสามารถทุ่มเทแรงกายแรงใจได้อย่างเต็มกำลัง ไร้ซึ่งความกังวล รมว.หลินฯ เชื่อว่า ในอนาคต ทั้งสองกระทรวงจะสามารถรวมกลุ่มกันเป็น “ทีมประสานความร่วมมือที่ดีที่สุดด้านการกีฬาและการทูต” (Team of Teams) เพื่อร่วมสร้างผลสัมฤทธิ์ด้านการทูตการกีฬาด้วยสปิริตความสามัคคีต่อไป
รมว.หลี่ฯ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกระทรวงกีฬา ก็เพื่อให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับนักกีฬาที่มุ่งสู่การแข่งขันบนเวทีนานาชาติ โดยทั้งสองกระทรวงจะจับมือกันในการแข่งขันที่สำคัญ บูรณาการเข้ากับทรัพยากรของสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในต่างแดน และศูนย์ส่งเสริมการกีฬา รวมถึงศูนย์ฝึกอบรมที่อยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงกีฬา โดยจะมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการแข่งขันที่ดีที่สุดให้แก่บรรดานักกีฬา ตั้งแต่การลงพื้นที่สำรวจก่อนการแข่งขันไปจนถึงการจัดตั้งจุดอำนวยความสะดวกให้แก่เหล่านักกีฬา ในช่วงระหว่างการแข่งขัน
นอกจากนี้ หนึ่งในเป้าหมายของการจัดตั้งกระทรวงกีฬา ก็เพื่อรุกขยายกิจการต่างประเทศผ่านการกีฬา เพื่อจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือในระดับภูมิภาค หลายปีมานี้ รัฐบาลไต้หวันได้ส่งเสริมให้ปาเลา ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรของไต้หวัน คัดเลือกทีมชาตินักกีฬาชาวปาเลา ในการเดินทางมาเข้ารับการฝึกอบรมในไต้หวัน ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านการกีฬากับกลุ่มประเทศพันธมิตรในเชิงลึก
รมว.หลี่ฯ ระบุว่า การบรรลุความเสมอภาคทางเพศในการกีฬา ไม่เพียงแต่จะเป็นแนวโน้มระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นเป้าหมายนโยบายของรัฐบาล ซึ่ง MOS จะเดินหน้าเสริมสร้างความเท่าเทียมทางโอกาสในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา โดยเฉพาะการบ่มเพาะบุคลากรสตรีในสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อเชื่อมโยงไปสู่โลกนานาชาติ