ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กต.ไต้หวันขอบคุณประเทศพันธมิตรสำหรับการร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30
2025-11-11
New Southbound Policy。กต.ไต้หวันขอบคุณประเทศพันธมิตรสำหรับการร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30 (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
กต.ไต้หวันขอบคุณประเทศพันธมิตรสำหรับการร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30 (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 10 พ.ย. 68

การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30 (UNFCCC COP 30) มีกำหนดการจัดขึ้น ณ เมืองเบเล็ง ประเทศบราซิล ในระหว่างวันที่ 10 - 21 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งในระหว่าง “การประชุมสุดยอดผู้นำ” (Leader Summit)  และ “การประชุมในหัวข้อพิเศษ” (Thematic Session) ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6 – 7 พ.ย. ที่ผ่านมา H.E. Russell Mmiso Dlamini นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรเอสวาตินี , H.E. Surangel Whipps Jr. ประธานาธิบดีสาธารณรัฐปาเลา , Mr. Kalani Kaneko รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ , Ms. Joyelle Clarke รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมเซนต์คิดส์และเนวิส รวมถึง Mr. Maina Vakafua Talia รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมตูวาลู ต่างทยอยทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันอย่างหนักแน่น รัฐบาลไต้หวันขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริงต่อ 5 ประเทศพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในกลไกการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับนานาชาติ ด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม
 
นรม. Russell กล่าวว่า หลักการ “ไม่ละทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง” ไม่ควรเป็นเพียงสโลแกนเท่านั้น แต่ควรเป็นคำมั่นที่ได้รับการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด พวกเราควรที่จะประสานสามัคคีเป็นหนึ่งในการรับมือกับหนึ่งในความท้าทายที่ยากลำบากในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ พร้อมทั้งเปิดรับสมาชิกทั้งหมดในประชาคมโลกอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ที่ยังคงถูกกีดกันให้อยู่นอกระบบ
 
ปธน. Whipps แสดงจุดยืนย้ำชัดต่อหลักการพื้นฐาน “ไม่ละทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง” โดยเน้นย้ำว่า ในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หุ้นส่วนทั้งหมดที่รวมถึงไต้หวัน ควรได้รับการให้ความสำคัญ ไต้หวันสามารถช่วยฟื้นกระตุ้นการเปลี่ยนผ่านในระดับสากล ด้วยแผนปฏิบัติการที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
 
รมว. Kaneko กล่าวว่า หมู่เกาะมาร์แชลล์มุ่งมั่นเรียกร้องให้ประชาคมโลกเปิดรับให้ไต้หวัน ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในรัฐภาคีของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มาเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากเล็งเห็นว่า ทุกประเทศทั่วโลกควรเข้ามีส่วนร่วมในแผนโซลูชันการแก้ปัญหาร่วมกัน และสมควรได้รับสิทธิ์แสดงความคิดเห็นในการประชุม
 
รมว. Clarke แถลงว่า แผนปฏิบัติการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ควรกีดกันการเข้าร่วมของผู้ใด กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก (Small Island Developing States: SIDS) ต้องการหุ้นส่วนการพัฒนา ภายใต้การสนับสนุนทางเทคโนโลยีของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เซนต์คิดส์และเนวิสจึงประสบความสำเร็จในการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า และยกระดับระบบส่งจ่ายไฟฟ้าให้มีความทันสมัย เฉกเช่นในปัจจุบัน
 
รมว. Talia กล่าวว่า พวกเราจำเป็นต้องกำหนดให้ “การประสานความร่วมมือ เพื่อรับมือกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” เป็นภารกิจอันดับต้นๆ ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ว่า เหตุใดพวกเราจึงต้องเปิดรับไต้หวัน
 
กต.ไต้หวันขอแสดงความขอบคุณต่อมิตรสหายทั่วโลก ที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในกลไกการบริหารจัดการด้านการอนุรักษ์ในระดับสากล ไต้หวันยินดีร่วมแบกรับภาระหน้าที่ของประชาคมโลก ผ่านการประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศพันธมิตรและมิตรประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อสร้างคุณประโยชน์ในการรับมือกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรม