ทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 14 พ.ย. 68
เมื่อช่วเช้าของวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับ Mr. Terrance Drew นายกรัฐมนตรีเซนต์คิตส์และเนวิส พร้อมด้วยภริยาและคณะตัวแทน โดยปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อเซนต์คิตส์และเนวิสที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างหนักแน่นมาเป็นเวลานาน พร้อมทั้งยังแสดงจุดยืนว่าด้วยความสำคัญของการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน พร้อมกันนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังได้ระบุว่า ทั้งสองประเทศได้เสริมสร้างความสัมพันธ์รูปแบบหุ้นส่วนที่เอื้อประโยชน์แก่กันในเชิงลึกหลากหลายมิติ อาทิ การพัฒนาการเกษตร , การแพทย์สาธารณสุข , การศึกษา , พลังงานและการส่งเสริมศักยภาพสตรี เป็นต้น โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายจับมือกันเดินหน้ากระตุ้นให้เกิดการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องสืบไป
เริ่มต้น ปธน.ไล่ฯ ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นต่อการมาเยือนของนรม. Drew พร้อมทั้งร่วมแสดงความยินดีต่อนรม. Drew ที่ได้รับ “รางวัลบุคคลที่มีอิทธิพลอย่างมากในทวีปแอฟริกา (Most Influential People of African Descent, MIPAD)” รางวัลข้างต้นนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการให้การยอมรับต่อนรม. Drew ในด้านการบริหารปกครองภาครัฐ การพัฒนาสังคมและคุณูปการในด้านกิจการระหว่างประเทศแล้ว ยังเป็นการยกระดับสถานภาพของเซนต์คิตส์และเนวิสบนเวทีนานาชาติอีกด้วย โดยปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นนรม. Drew แสดงให้เห็นอิทธิพลระดับนานาชาติ ตลอดจนขออวยพรให้เซนต์คิตส์และเนวิส ที่รับหน้าที่เป็นประเทศเจ้าภาพจัดการประชุม Conference of Heads of Government of the Caribbean Community (CARICOM) ที่มีกำหนดการจะจัดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2569 ประสบแต่ความราบรื่น
ปธน.ไล่ฯ เผยว่า นรม. Drew สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรแพทยศาสตร์ เมื่อปีที่แล้วที่นรม. Drew เดินทางมาเยือนไต้หวัน ทั้งสองฝ่ายต่างร่วมแลกเปลี่ยนกันในผลสัมฤทธิ์ทางความร่วมมือด้านการแพทย์แบบทวิภาคี พร้อมทั้งแบ่งปันวิสัยทัศน์ “ประเทศเกาะที่มีการพัฒนาที่ยั่งยืน” ไต้หวันยินดีที่จะจับมือกับเซนต์คิตส์และเนวิส สรรสร้างสภาพแวดล้อมทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีคุณภาพ และจะร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของไต้หวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในพื้นที่ อันจะนำไปสู่เส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืน
การเดินทางมาเยือนของนรม. Drew ในครั้งนี้ ยังมีอีกหนึ่งวัตถุประสงค์คือ การทำหน้าที่เป็นตัวแทนเมืองบาสแตร์ เมืองหลวงของเซนต์คิตส์และเนวิส ในการผูกสัมพันธ์เป็นเมืองพี่น้องกับกรุงไทเปและนครไถหนาน เพื่อสื่อให้เห็นว่า การพัฒนาความสัมพันธ์แบบทวิภาคีได้แทรกซึมเข้าสู่ตัวเมืองแล้ว ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ความร่วมมือแบบทวิภาคี ดำเนินไปในทิศทางที่แนบแน่น และเกี่ยวโยงเข้ากับวิถีชีวิตของภาคประชาชนเพิ่มมากขึ้น
ในโอกาสนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อนรม. Drew ที่เรียกร้องให้ประชาคมโลก ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) โดยในอนาคต ไต้หวันจะเดินหน้าจับมือกับเซนต์คิตส์และเนวิส ในการร่วมเผชิญหน้ากับความท้าทายนานับประการ ตลอดจนเดินหน้ากระชับความร่วมมือกับหุ้นส่วนประเทศในสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองในระดับสากล
นรม. Drew กล่าวปราศรัยว่า มิตรภาพระหว่างไต้หวัน – เซนต์คิตส์และเนวิส ที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลากว่า 40 ปี ไม่เพียงแต่จะจัดตั้งขึ้นบนรากฐานความร่วมมือเท่านั้น แต่ยังตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานความไว้วางใจ ความเคารพซึ่งกันและกัน รวมไปถึงเป้าหมายที่ยึดมั่นร่วมกัน นับตั้งแต่ที่เซนต์คิตส์และเนวิส ประกาศอิสรภาพเป็นต้นมา ก็ได้ยืนหยัดเคียงข้างไต้หวันเสมอมา และสวมบทบาทสำคัญในบริบททางประวัติศาสตร์ ซึ่งไต้หวันนอกจากจะยื่นมือให้ความช่วยเหลือด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีและการพัฒนาระดับประเทศชาติแก่เซนต์คิตส์และเนวิสแล้ว ยังมุ่งมั่นทุ่มเทในภารกิจการบ่มเพาะบุคลากร ซึ่งจวบจนปัจจุบัน มีนักศึกษาชาวเซนต์คิตส์และเนวิส จำนวนนับร้อยคนที่สำเร็จการศึกษาในสถาบันระดับอุดมศึกษาแนวหน้าของไต้หวัน
นรม. Drew กล่าวว่า เซนต์คิตส์และเนวิสจะยังคงให้การสนับสนุนไต้หวัน เข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) เนื่องจากศักยภาพความเป็นผู้นำของไต้หวัน ส่งเสริมให้ประชาคมโลก ก้าวไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งประชาคมโลกควรที่จะเข้าถึงแผนโซลูชันที่ยื่นเสนอโดยไต้หวัน
นรม. Drew กล่าวว่า ไต้หวันได้ส่งมอบการสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ในระหว่างการพัฒนาประเทศเกาะที่ยั่งยืนของเซนต์คิตส์และเนวิส ทั้งในด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล , พลังงานหมุนเวียน , ความมั่นคงทางอาหาร , การยกระดับทางการแพทย์และการส่งเสริมศักยภาพเยาวชน เป็นต้น นรม. Drew จึงได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อศักยภาพผู้นำและวิสัยทัศน์กว้างไกลของปธน.ไล่ฯ ที่มุ่งผลักดันสัมพันธไมตรีของภาคประชาชนระหว่างสองประเทศอย่างกระตือรือร้น โดยเซนต์คิดส์และเนวิสจะยืนหยัดเคียงข้างไต้หวันต่อไป ตลอดจนเดินหน้าเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาความก้าวหน้าของประเทศชาติและปรับปรุงคุณภาพชีวิตประชาชน
ในวันเดียวกันนี้ นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ยังได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อให้การต้อนรับนรม. Drew และคณะตัวแทน รมว.หลินฯ ระบุว่า ความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวัน – เซนต์คิดส์และเนวิส ที่ดำเนินมายาวนานกว่า 42 ปี จะยังคงได้รับการพัฒนาให้คงอยู่อย่างแน่นแฟ้น ภายใต้กรอบหลักการ “การทูตเชิงบูรณาการ” และ “โครงการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศพันธมิตร” ผ่านการขยายขอบเขตความร่วมมือในด้านต่างๆ อาทิ สาธารณสุข , การเกษตร , การศึกษา การอนุรักษ์และการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล ทั้งนี้ เพื่อช่วยส่งเสริมให้เซนต์คิดส์และเนวิส เร่งบรรลุสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยเร็ววัน