ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กต.ไต้หวันขอบคุณ 7 ประเทศพันธมิตรที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม UNFCCC ในระหว่างการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30  (UNFCCC COP 30)
2025-11-21
New Southbound Policy。กต.ไต้หวันขอบคุณ 7 ประเทศพันธมิตรที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม UNFCCC ในระหว่างการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30  (UNFCCC COP 30) (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
กต.ไต้หวันขอบคุณ 7 ประเทศพันธมิตรที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม UNFCCC ในระหว่างการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30  (UNFCCC COP 30) (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 20 พ.ย. 68

การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30 (UNFCCC COP 30) มีกำหนดการจัดขึ้น ณ เมืองเบเล็ม ประเทศบราซิล ในช่วงระหว่างวันที่ 10 – 21 พฤศจิกายน 2568 และได้มีการจัด “การประชุมระดับสูง” (High Level Segment) ขึ้นในช่วงวันที่ 17 – 18 พ.ย. ซึ่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูงจาก 6 ประเทศพันธมิตรของไต้หวัน ที่ประกอบด้วย หมู่เกาะมาร์แชลล์ , เฮติ , เบลีซ , เซนต์คิดส์และเนวิส , กัวเตมาลาและเซนต์ลูเซีย ต่างทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันอย่างหนักแน่นในระหว่างการประชุม รัฐบาลไต้หวันขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริงต่อกลุ่มประเทศข้างต้นที่เอ่ยถึง รวมถึงปารากวัยที่ให้การสนับสนับสนุนไต้หวัน เข้าร่วมในกลไกการบริหารด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศ ผ่านการประกาศ “แถลงการณ์แห่งชาติ” (National Statement) ซึ่งในจำนวนนี้ เจ้าหน้าที่ภาครัฐจากหมู่เกาะมาร์แชลล์ รวมถึงเซนต์คิดส์และเนวิส ยังได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวัน เป็นจำนวน 2 ครั้ง ในระหว่างการประชุม COP
 
Mr. Bremity Lakjohn รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและเลขาธิการประจำทำเนียบประธานาธิบดีสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ กล่าวขอบคุณไต้หวันในระหว่างการประชุม สำหรับความช่วยเหลือที่ส่งมอบให้หมู่เกาะมาร์แชลล์เสมอมา พร้อมเน้นย้ำว่า ไต้หวันควรเข้ามีส่วนร่วมในกลไกข้างต้น เพื่อร่วมกันแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายใต้จิตวิญญาณของ “Mutirão” ที่สื่อความหมายว่า “การรวมพลังของประชาคมโลก”
 
Mr. Joseph Emmanuel Philippe รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมสาธารณรัฐเฮติ เรียกร้องว่า การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ภายใต้กรอบโครงสร้างแบบพหุภาคี ไม่เพียงแต่จะมีส่วนช่วยในการสร้างความเชื่อมั่นแก่กันแล้ว ยังเผยให้ประชาคมโลกตระหนักเห็นว่า มีเพียงการประสานความร่วมมือกันแบบหมู่คณะ จึงจะสามารถพิชิตหลักการไม่ละทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลเฮติจึงขอแสดงจุดยืนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยสภาพภูมิอากาศโลก ที่ริเริ่มจัดขึ้นโดย UNFCCC อย่างเป็นรูปธรรม
 
Mr. Orlando Habet รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการบริหารจัดการขยะมูลฝอย กล่าวว่า เบลีซเชื่อมั่นในหุ้นส่วนที่เปี่ยมศักยภาพ ที่รวมถึงสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ซึ่งเห็นสมควรว่า ไต้หวันควรได้รับโอกาสเข้าร่วมในกลไก UNFCCC อย่างมีความหมายและเป็นรูปธรรม นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาดของไต้หวัน และการให้สนับสนุนต่อกลุ่มประเทศที่เสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นคุณูปการที่ประชาคมโลกไม่สามารถมองข้ามได้ ไต้หวันขานรับต่อแนวคิด “โกลบอล มูชิราว (Global Mutirão) ที่ยื่นเสนอโดยรัฐบาลบราซิล และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายอนาคตการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์
 
Ms. Joyelle Clarke รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมเซนต์คิดส์และเนวิส แสดงจุดยืนว่า ทุกประเทศและทุกเสียงความคิดเห็น จำเป็นต้องได้รับการมองเห็นและให้ความสำคัญ ซึ่งพวกเราให้การสนับสนุนการเข้าร่วมอย่างมีความหมายของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในกลไกความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ภายใต้กรอบ UNFCCC เนื่องจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไร้ซึ่งกรอบจำกัดทางพรมแดน เมื่อใดที่ทุกฝ่ายได้รับการมองเห็นในแผนปฏิบัติการ เชื่อว่าจะบังเกิดผลสัมฤทธิ์ตามความคาดหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
 
Mr. Edwin Castellanos รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสาธารณรัฐกัวเตมาลา เน้นย้ำว่า กัวเตมาลาให้การยอมรับต่อการสร้างคุณประโยชน์อันล้ำค่า ในฐานะหุ้นส่วนทางความร่วมมือของไต้หวัน ซึ่งไต้หวันครองสถานภาพที่สำคัญในด้านการกำหนดราคาคาร์บอน การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการปรับตัวต่อวิกฤตฯ เป็นต้น
 
Ms. Pauline Antoine-Prospere รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การพัฒนาที่ยั่งยืนและนวัตกรรมของเซนต์ลูเซีย กล่าวว่า ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ ด้วยเหตุนี้ UNFCCC และ “ความตกลงปารีส” จึงไม่ควรกีดกันการเข้าร่วมของไต้หวัน เซนต์ลูเซียขอใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้ทุกประเทศสมาชิก ให้การสนับสนุนการเข้าร่วมของไต้หวัน ตามหลักจิตวิญญาณ “Global Mutirão”
 
กต.ไต้หวันขอขอบคุณสำหรับพลังเสียงสนับสนุนจากมิตรสหายทั่วโลก พร้อมกล่าวว่า ไต้หวันยินดีที่จะแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก ด้วยการยกระดับความร่วมมือกับกลุ่มประเทศพันธมิตรและบรรดามิตรประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อร่วมสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประชาคมโลกโลกอย่างยั่งยืนสืบต่อไป