ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวันให้การต้อนรับรมว.สาธารณสุขเฮติและกัวเตมาลา เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรในด้านการแพทย์อัจฉริยะ
2025-11-24
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวันให้การต้อนรับรมว.สาธารณสุขเฮติและกัวเตมาลา เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรในด้านการแพทย์อัจฉริยะ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต.ไต้หวันให้การต้อนรับรมว.สาธารณสุขเฮติและกัวเตมาลา เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรในด้านการแพทย์อัจฉริยะ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 20 พ.ย. 68

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน  ได้ทยอยให้การต้อนรับ Mr. Bertrand Sinal รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของเฮติ และ Mr. Joaquín Barnoya รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของกัวเตมาลา พร้อมด้วย Mr. Edgar Rolando González รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐของไต้หวัน - เฮติ และเจ้าหน้าที่ภาครัฐของไต้หวัน – กัวเตมาลา ต่างร่วมแลกเปลี่ยนกันในประเด็นความร่วมมือทางการแพทย์อัจฉริยะ และการบ่มเพาะบุคลากรการแพทย์ เป็นต้น
 
รมว.หลินฯ ขอบคุณรัฐบาลเฮติที่ร่วมเป็นกระบอกเสียง และยื่นส่งหนังสือลงนามให้การสนับสนุนไต้หวัน ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การอนามัยโลก (WHO) ครั้งที่ 156 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 และการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ รมว.หลินฯ ยังได้ชี้แจงต่อรมว. Sinal ว่า รัฐบาลไต้หวันเดินหน้าผลักดันแผนแม่บท “1 ประเทศ 1 ศูนย์การแพทย์” ซึ่งเป็นสถาบันการแพทย์รูปแบบอัจฉริยะ ภายใต้ “โครงการสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่พันธมิตร” โดยหวังที่จะช่วยเหลือประเทศพันธมิตร จัดตั้งและยกระดับคุณภาพการแพทย์สมัยใหม่ เพื่อสร้างสวัสดิการและความผาสุกให้แก่ภาคประชาชน ซึ่งรมว. Sinal เกิดความประทับใจต่อไมตรีจิตอันแสนอบอุ่น และผลสัมฤทธิ์ด้านการแพทย์ของไต้หวัน พร้อมทั้งชี้แจงว่า ในปีนี้ เฮติได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหาร WHO โดยจะมุ่งมั่นให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังหวังที่จะเป็นอย่างยิ่งที่จะมีโอกาสแลกเปลี่ยนกันในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการแพทย์ขั้นพื้นฐาน , ระบบสาธารณสุข รวมไปถึงการเสริมสร้างและการฝึกอบรมบุคลากร เป็นต้น
 
ในวันเดียวกันนั้น รมว.หลินฯ ยังได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนที่นำโดย รมว. Barnoya โดยรมว.หลินฯ ได้แถลงว่า โครงการก่อสร้างโรงพยาบาล Chimaltenango และอาคารทารกแรกเกิดของโรงพยาบาล San Juan de Dios รวมถึง “โครงการสร้างเสริมระบบหลักประกันสุขภาพของสตรีมีครรภ์และทารกแรกเกิด” บังเกิดประสิทธิผลที่ดีตามความคาดหมาย โดยในอนาคต พวกเราจะสืบสานพัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับกัวเตมาลาอย่างใกล้ชิด ในด้านการแพทย์สาธารณสุข ภายใต้ “โครงการสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่พันธมิตร” ต่อไป
 
การเดินทางมาเยือนไต้หวันของ รมว. Barnoya ในครั้งนี้ นอกจากจะเข้าร่วมการประชุมแล้ว ยังได้เข้าเยี่ยมชมโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (NTUH) ซึ่งรมว. Barnoya ได้ให้การชื่นชมต่อมาตรฐานการแพทย์ที่ทันสมัยของไต้หวัน และระบบหลักประกันที่ครอบคลุม ที่ควรค่าแก่การเรียนรู้จากนานาประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ รมว. Barnoya ยังได้ระบุถึงโครงการด้านสาธารณสุข ระหว่างไต้หวัน – กัวเตมาลา ที่ได้รับการยอมรับและเสียงขอบคุณจากทุกแวดวงในกัวเตมาลา โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะจับมือกันพัฒนาขีดความสามารถทางความเชี่ยวชาญของเจ้าหน้าที่การแพทย์กัวเตมาลาอย่างต่อเนื่อง
 
วัตถุประสงค์หลักของการเดินทางเยือนไต้หวันของ 2 รัฐมนตรีข้างต้น ก็เพื่อเข้าร่วม “การประชุมด้านสุขภาพและสวัสดิการระดับโลกในไต้หวัน ประจำปี 2568” ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ – กระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ทั้งนี้ เพื่อร่วมแบ่งปันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านสาธารณสุขโลกกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูงในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวม 25 คนจาก 13 ประเทศทั่วโลก และบรรดาผู้เชี่ยวชาญ 40 คนจาก 10 ประเทศ อาทิ สหรัฐฯ , ยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งประสบความสำเร็จในการส่งเสริมการสร้างปฏิสัมพันธ์และความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ บังเกิดเป็นผลสัมฤทธิ์ที่ดีงาม และได้รับการยอมรับอย่างล้นหลามจากประชาคมโลก