ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 26 พ.ย. 68

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้เข้าร่วม “พิธีเปิดการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติระดับภูมิภาคเอเชีย ประจำปี 2568” โดยปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ไต้หวันมีระบบการอาชีวศึกษาที่มั่นคงและมีบุคลากรวิชาชีพที่มีความชำนาญการยอดเยี่ยม ส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ของไต้หวันเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ไม่สามารถขาดได้ในห่วงโซ่อุปทานโลก
 
เริ่มต้น ปธน.ไล่ฯ ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนที่เดินทางมารวมตัวกันจาก 31 ประเทศ พร้อมทั้งระบุว่า เป็นอีกครั้งในรอบ 32 ปีที่ไต้หวันได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันทักษะวิชาชีพระดับนานาชาติ ตลอดระยะเวลา 30 ปีเศษมานี้ ไต้หวันได้เปลี่ยนผ่านจากการรับจ้างผลิตด้วยแรงงาน มาสู่ฐานสำคัญทางเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ นอกจากจะสื่อให้เห็นถึงการยอมรับระดับสูงต่อศักยภาพทางเทคโนโลยีของไต้หวันแล้ว ยังเป็นการแสดงให้ประชาคมโลกมองเห็นหลักชัยที่สำคัญในผลสัมฤทธิ์การฝึกอบรมทางวิชาชีพ
 
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่ห่วงโซ่อุตสาหกรรมโลก ต้องเผชิญหน้ากับการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ประกอบกับการมาเยือนของยุคสมัยทางเทคโนโลยี AI และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ประชาคมโลกจึงมุ่งมั่นเดินหน้ายกระดับศักยภาพทางการแข่งขันอย่างกระตือรือร้น เชื่อว่าแกนหลักของศักยภาพการแข่งขันระดับประเทศคือบุคลากร ซึ่งรากฐานสำคัญของบุคลากรอยู่ที่ทักษะวิชาชีพ บุคลากรวิชาชีพ ถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมอุตสาหกรรม ไต้หวันเป็นศูนย์กลางสำคัญของห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก เนื่องจากมีเทคโนโลยีการผลิตแผ่นชิปที่ทันสมัย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่กระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจของไต้หวัน มิได้จำกัดเพียงเฉพาะอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เท่านั้น แต่ยังเกิดจาก “ระบบการอาชีวศึกษา” ที่มั่นคง ซึ่งจะเห็นได้จากการครองส่วนแบ่งตลาดโลกเป็นอันดับต้นๆ ของผู้ประกอบการไต้หวัน ตั้งแต่นิคมอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลแม่นยำสูงในนครไทจง ไปสู่อาณาจักรแห่งสกรูน็อตในพื้นที่ตอนใต้ของไต้หวัน จากชิ้นส่วนอะไหล่ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศไปจนถึงการวิจัยพัฒนาสิ่งทอ ไต้หวันมีแชมป์เปี้ยนนิรนามซุกซ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก บุคลากรวิชาชีพเหล่านี้ มีความใส่ใจในรายละเอียดปลีกย่อย และได้รับการพัฒนาส่งต่อรุ่นสู่รุ่น จนทำให้เกิดการพัฒนาในทิศทางที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจิตวิญญาณของผู้ชำนาญการเหล่านี้ ได้ส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ไต้หวัน ก้าวสู่การเป็นจิ๊กซอว์ที่ไม่สามารถขาดได้ในห่วงโซ่อุปทานระดับสากล
 
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า เมื่อมองย้อนไปสู่การแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ผ่านมา ทีมไต้หวันสามารถคว้าแชมป์มาครองในสัดส่วนกว่าร้อยละ 93% ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า เยาวชนรุ่นใหม่ของไต้หวันมีศักยภาพการปฏิบัติจริงและแนวคิดด้านนวัตกรรม ขณะเดียวกัน ก็ยังเน้นย้ำว่า รัฐบาลไต้หวันให้ความสำคัญต่อการอาชีวศึกษาเป็นอย่างมาก อันจะเห็นได้จากการมุ่งผลักดัน “แผนบูรณาการภาคอุตสาหกรรม วิชาการ การฝึกอบรมและการประยุกต์ใช้” และ “โครงการบ่มเพาะความรู้ความสามารถทางทักษะวิชาชีพ” โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงที่ไร้รอยต่อ ระหว่างสถาบันการศึกษาและสายงานอาชีพ ขณะเดียวกัน พวกเราก็ยังมุ่งมั่นในการบ่มเพาะบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ “ทักษะสีเขียว” และ “การบูรณาการข้ามแวดวง” เพื่อขานรับต่อแนวโน้มการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้ง “โครงการกองทุนสานฝันเยาวชนในต่างแดนมูลค่าหมื่นล้านเหรียญ” เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไต้หวันแลกเปลี่ยนกับประชาคมโลก
 
นอกจากนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังได้ระบุว่า การแข่งขันครั้งนี้ครอบคลุม รวม 44 สาขา ทั้งการก่ออิฐ , งานช่างไม้ ,การเชื่อมโลหะ ไปจนถึงร้านเสริมสวย , ร้านอาหารและร้านจัดดอกไม้ ทุกประเภทล้วนแต่เป็นการขับเคลื่อนอารยธรรมสมัยใหม่และเป็นการสร้างสุนทรียภาพในการดำรงชีวิต สังคมในปัจจุบันที่มีการพัฒนารุดหน้าทางเทคโนโลยี AI ข้อมูลเชิงสถิติสามารถเข้าสู่การประมวลผล ผลิตภัณฑ์สินค้าก็อาจถูกคัดลอก แต่ “ความใส่ใจ” และ “ความชำนาญการ” เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทดแทนได้
 
ในช่วงท้าย ปธน.ไล่ฯ ขอเชิญชวนให้เหล่าผู้เข้าแข่งขันคว้าโอกาสนี้ เดินทางเยือนสำรวจในพื้นที่ต่างๆ ของไต้หวัน ไต้หวันไม่เพียงแต่เป็นอาณาจักรแห่งเทคโนโลยี แต่ยังมีเมนูอาหารเลิศรสให้เลือกสรรอีกมาก โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทุกคนได้ลิ้มลองเสน่ห์รสชาติอาหารของไต้หวัน ในระหว่างการประลองฝีมือทักษะวิชาชีพ เพื่อนำความทรงจำอันดีงามเหล่านี้ กลับไปแบ่งปันสู่ประเทศมาตุภูมิ