กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 4 ธ.ค. 68
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับ Dr. Jacqueline Kitulu ประธานแพทยสมาคมโลก (World Medical Association, WMA) รวมถึงคณะตัวแทนที่ประกอบด้วย Dr. Jack Resneck ประธานคณะกรรมการบริหาร และ Dr. Otmar Kloiber เลขาธิการ ที่ได้รับเชิญให้เดินทางมาเยือนไต้หวัน เพื่อเข้าร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วย “การเปลี่ยนผ่านทางการแพทย์ －สุขภาพดีถ้วนหน้า , เทคโนโลยี AI , การแพทย์สีเขียว และระบบการดูแลสุขภาพทางการแพทย์” โดยรมว.หลินฯ ได้อาศัยโอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อ WMA ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างหนักแน่นเสมอมา โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นไต้หวัน – WMA เดินหน้าเสริมสร้างความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ด้านการแพทย์สาธารณสุขระดับโลกต่อไป
รมว.หลินฯ แสดงความขอบคุณต่อ WMA ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมใน WHO บนเวทีนานาชาติอย่างเปิดเผย และให้ความช่วยเหลือแก่สมาคมการแพทย์ไต้หวัน (Taiwan Medical Association, TMA) ในการปกป้องชื่อและสิทธิ์ของสมาชิกใน WMA โดยในอนาคต กต.ไต้หวันจะเดินหน้าบรรลุวิสัยทัศน์นโยบาย “ไต้หวันสุขภาพดี” ที่ยื่นเสนอโดยประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ด้วยการประสานความร่วมมือแบบข้ามหน่วยงาน ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ , สถานพยาบาล , อุตสาหกรรมการแพทย์และสมาคมที่เกี่ยวข้อง ผ่าน “โครงการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศพันธมิตร” เพื่อร่วมกันผลักดัน “การทูตเชิงการแพทย์” ผนวกเข้ากับศักยภาพอุตสาหกรรมสารสนเทศและการแพทย์ชีวภาพ ทั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณ “บทบาทผู้นำของไต้หวัน” (Taiwan can lead) ในด้านสาธารณสุข เพื่อการยกระดับสวัสดิการของมวลมนุษยชาติระดับโลก
Dr. Jacqueline Kitulu ประธาน WMA กล่าวให้การยอมรับว่า ไต้หวันมีอัตราการเข้าถึงระบบหลักประกันทางสุขภาพที่ครอบคลุม และมีข้อได้เปรียบด้านการแพทย์ดิจิทัล พร้อมทั้งกล่าวว่า WMA จะมุ่งให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในระบบการแพทย์สาธารณสุขระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเน้นย้ำให้เห็นความสำคัญของการประสานความร่วมมือระดับนานาชาติ ในการส่งเสริมกลไกสุขภาพระดับสากล นอกจากนี้ Dr. Jack Resneck ยังได้ถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อไต้หวันที่ได้สร้างคุณูปการด้านสุขภาพแก่ประชาคมโลก โดย Dr. Otmar Kloiber เน้นย้ำว่า ไต้หวันไม่ควรถูกกีดกันให้อยู่นอกระบบการแพทย์และการประชุมนานาชาติ อาทิเช่น WHO การเข้าร่วมกลไกการแพทย์ระดับสากลของไต้หวัน จะเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายในประชาคมโลก
