กระทรวงคมนาคม วันที่ 16 ธ.ค. 68

การประชุมสัมมนานานาชาติว่าด้วยอากาศยานไร้คนขับและการเคลื่อนย้ายทางอากาศขั้นสูง (Advanced Air Mobility Symposium, AAM) เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา กรมการบินพลเรือน (Civil Aviation Administration, CAA) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมไต้หวัน หวังที่จะเสริมสร้างศักยภาพของกฎระเบียบและการตรวจสอบของไต้หวัน ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างประเทศ เพื่อยกระดับรากฐานการแข่งขันในอุตสาหกรรมอากาศยานไร้คนขับของไต้หวันบนเวทีนานาชาติ นางเหอสูผิง อธิบดีกรมการบินพลเรือน กล่าวว่า จะเร่งปรับปรุงกฎระเบียบและกลไกการบริหารอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เงื่อนไขความมั่นคงปลอดภัย
 
การประชุมครั้งนี้รวบรวมผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมการผลิตอากาศยานไร้คนขับในประเทศ รวมถึงติดต่อเชิญหน่วยงานกำกับดูแลการบินพลเรือนและผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ ยุโรปและนานาชาติ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบ AAM และโดรน รวมถึงระบบการตรวจสอบและมาตรฐานสากล
 
อธิบดีเหอฯ กล่าวว่า CAA ดำเนินการปรับปรุงกฎระเบียบและกลไกการบริหารอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงทั้งความต้องการในการพัฒนาอุตสาหกรรมและการรักษาความปลอดภัยด้านการบิน พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือแบบบูรณาการ ในด้านอากาศยานไร้คนขับและ AAM ควบคู่ไปกับการบูรณาการจัดสรรรฐานสาธิตการบิน ผ่านการจัดการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การสนับสนุนการพัฒนาทางอุตสาหกรรม นอกจากนี้ CAA ยังได้เดินหน้าผลักดันการยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย (Two-Factor Authentication, 2FA) เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับมาตรฐานสากล โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมให้ไต้หวัน สวมบทบาทสำคัญในการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับในระดับสากล
 
นายหลินกั๋วเซี่ยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมไต้หวัน (MOTC) ให้การยอมรับต่อ CAA ที่มุ่งผลักดันผลสัมฤทธิ์ ภายใต้นโยบายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโดรน โดยรมช.หลินฯ กล่าวว่า ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามที่อากาศยานไร้คนขับ อาจก่อให้เกิดกับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญและความปลอดภัยของท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคมได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยชุงซาน (NCSIST) ในการจัดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานเรียบร้อยแล้ว โดยรมช.หลินฯ ชี้ว่า อากาศยานไร้คนขับเปี่ยมด้วยศักยภาพการพัฒนาในหลากหลายมิติ โดยทิศทางในอนาคตจะมุ่งเน้นไปที่การคำนึงถึงการพัฒนาทางอุตสาหกรรมและความต้องการด้านความมั่นคงให้เกิดความสมดุล ด้วยการยกระดับการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานและกลไกการกำกับบริหารโดรน
 
ระหว่างการประชุม Mr. Caspar Wang เจ้าหน้าที่องค์การบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) ชี้แจงเกี่ยวกับร่างกฎหมายว่าด้วยการบริหารการบินเกินกว่าระยะสายตา ของ Part 108 ล่าสุดของสหรัฐฯ รวมถึงทิศทางนโยบายการบริหารตรวจสอบรูปแบบล่าสุดของ AAM และต้นแบบการตรวจสอบอากาศยานขึ้นลงทางดิ่ง (Powered - Lift)
 
Mr. Andy Thurling เจ้าหน้าที่สมาคม American Society for Testing and Materials (ASTM) ได้ทำการวิเคราะห์โครงสร้างมาตรฐานและข้อบังคับทางเทคโนโลยีด้านการบินเกินกว่าระยะสายตา การตรวจสอบและระบบหลีกเลี่ยงการชน (Detect and Avoid, DAA)
 
การประชุมในครั้งนี้ดึงดูดผู้เข้าร่วมตัวแทนภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการ จำนวนกว่า 150 คนเข้าร่วม CAA แถลงว่า จะอาศัยการประชุมในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินหน้าผลักดันภารกิจใน 3 มิติหลัก ได้แก่ : การยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบ , การเสริมสร้างศักยภาพด้านการตรวจสอบ และการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ
 
CAA หวังจะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดรนของไต้หวัน ให้พัฒนาสู่ทิศทาง “ความปลอดภัย นวัตกรรมและความเป็นสากล” ผ่านการเสริมสร้างระบบการตรวจสอบและการแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยีระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่มีความยืดหยุ่นและมีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก