ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 21 ธ.ค. 68
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนที่นำโดย Mr.Hagiuda Koichi สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่น โดยปธน.ไล่ฯ ได้อาศัยโอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อ Ms. Takaichi Sanae นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ให้การสนับสนุนต่อความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน
ปธน.ไล่ฯ แถลงว่า นับตั้งแต่ที่นรม. Sanae ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นต้นมา ต่างก็มุ่งมั่นแสดงจุดยืนให้การสนับสนุนต่อมิตรภาพระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่น และแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ผ่านเวทีการประชุมอย่างเปิดเผย อาทิ การประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ - ญี่ปุ่น , การประชุมอาเซียนในญี่ปุ่น (ASEAN-Japan Summit) และการประชุมประจำปีภายใต้กรอบ APEC ปธน.ไล่ฯ ในฐานะตัวแทนภาคประชาชนชาวไต้หวัน ขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริง โดยเฉพาะหลังจากที่คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนรม. Sanae เข้ารับตำแหน่งเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น ก็ได้รับการสนับสนุนจากภาคประชาชนชาวญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าในอนาคต ญี่ปุ่นจะสร้างคุณูปการยิ่งใหญ่ในด้านสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งสองฝ่ายจะเดินหน้าจับมือกันพัฒนาความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งแผนแม่บทยุทธศาสตร์แห่งชาติ , ความร่วมมือในระดับภูมิภาค , ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ , อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง และการเสริมสร้างความยืดหยุ่นของภาคประชาสังคม เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อพิชิตวิสัยทัศน์ “มหาสมุทรอินโด – แปซิฟิกที่เปิดกว้างอย่างเสรี”
ปธน.ไล่ฯ เน้นย้ำว่ามีเพียงการประสานความร่วมมือระหว่างพันธมิตรด้านประชาธิปไตยอย่างสามัคคี จึงจะสามารถสกัดกั้นภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการธำรงรักษาไว้ซึ่งค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ ขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก ในโอกาสนี้ ปธน.ไล่ฯ จึงขอแสดงความขอบคุณต่อ Mr. Koichi และเหล่ามิตรสหาย ที่ให้การสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างหนักแน่นเสมอมา พร้อมทั้งยังกระชับความสัมพันธ์แบบทวิภาคี ให้ดำเนินไปอย่างใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้น
Mr. Koichi กล่าวว่า สำหรับญี่ปุ่นแล้ว ไต้หวันเป็นหุ้นส่วนและมิตรสหายสำคัญ ที่ยึดมั่นในค่านิยมสากลเดียวกัน และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แนบแน่นระหว่างกัน อีกทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนระหว่างภาคประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อช่วงที่ผ่านมา นรม. Sanae และนายหลินซิ่นอี้ ตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจากปธ.ไล่ฯ ผู้นำไต้หวัน เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders' Meeting, AELM) และได้ร่วมหารือแบบทวิภาคีกันในประเด็นทางเศรษฐกิจและการป้องกันภัยพิบัติ นอกจากนี้ พรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่นยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนกับไต้หวันอย่างใกล้ชิด ผ่านกรมส่งเสริมเยาวชน จึงจะเห็นได้ว่า ทั้งสองฝ่ายคงรักษาไว้ซึ่งมิตรภาพอันยาวนาน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าจับมือและแลกเปลี่ยนกันในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ภายใต้พื้นฐานอันดีที่มีอยู่เดิม
นอกจากนี้ Mr. Koichi ยังได้ระบุว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ไต้หวันได้ปลดมาตรการการควบคุมจำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากญี่ปุ่น กลับสู่กลไกการบริหารควบคุมที่เป็นปกติ ซึ่งมีส่วนช่วยต่อการบูรณะและการฟื้นฟูจังหวัดฟุกุชิมะเป็นอย่างมาก Mr. Koichi ขอแสดงความเคารพและขอบคุณต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภาคประชาชนชาวไต้หวันจะมีโอกาสได้ลิ้มลองผลิตภัณฑ์อาหารจากญี่ปุ่น ส่วนในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า โรงงานแห่งที่ 1 ที่บริษัท TSMC เข้าลงทุนจัดตั้งในจังหวัดคูมาโมโตะ ได้เปิดดำเนินการผลิตแล้วเมื่อเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา ส่วนโรงงานแห่งที่ 2 ก็ได้มีการจัดพิธีวางศิลาฤกษ์ขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประกอบกับความร่วมมือด้านเซมิคอนดักเตอร์แบบทวิภาคี ถือเป็นต้นแบบที่ดีของความร่วมมือทางภาคอุตสาหกรรมแบบทวิภาคี เชื่อว่าในอนาคต ไต้หวัน – ญี่ปุ่น จะจับมือกันสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่กันในด้านเทคโนโลยีเกิดใหม่อย่าง AI และ ICT โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะขยายขอบเขตไปสู่ทิศทางความร่วมมืออื่นๆ ในอนาคต เพื่อกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนทางการค้าและเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความยืดหยุ่นของระบบห่วงโซ่อุปทาน และบ่มเพาะบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
Mr. Koichi กล่าวว่า จากผลรายงาน “การสำรวจความคิดเห็นของภาคประชาชนชาวญี่ปุ่นที่มีต่อไต้หวัน” ที่ประกาศโดยสมาคมแลกเปลี่ยนญี่ปุ่น (Japan-Taiwan Exchange Association) สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศที่ชาวไต้หวันนิยมชื่นชอบมากที่สุดคือญี่ปุ่น โดยรายงานผลการสำรวจยังระบุอีกว่า ภาคประชาชนชาวญี่ปุ่นกว่าร้อยละ 80 ต่างรู้สึกเป็นมิตรต่อไต้หวัน โดย Mr. Koichi แสดงทรรศนะว่า ความสัมพันธ์อันดีอย่างใกล้ชิดระหว่างภาคประชาชนของสองประเทศ ตั้งอยู่บนพื้นฐานการให้ความช่วยเหลือแก่กัน ภายใต้สถานการณ์โรคโควิด – 19 และท่ามกลางภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่นในปัจจุบัน นับว่าดีที่สุดเป็นประวัติการณ์