ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวันเป็นประธานใน “งานเลี้ยงฉลองขอบคุณมิตรสหายทางการทูต ประจำปี 2568” โดยได้แสดงความขอบคุณต่อหุ้นส่วนจากทุกแวดวง ที่ร่วมกันจับมือผลักดันการทูตเชิงบูรณาการ ส่งเสริมให้ประชาคมโลกมองเห็นไต้หวัน
2025-12-24
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวันเป็นประธานใน “งานเลี้ยงฉลองขอบคุณมิตรสหายทางการทูต ประจำปี 2568” โดยได้แสดงความขอบคุณต่อหุ้นส่วนจากทุกแวดวง ที่ร่วมกันจับมือผลักดันการทูตเชิงบูรณาการ ส่งเสริมให้ประชาคมโลกมองเห็นไต้หวัน
รมว.กต.ไต้หวันเป็นประธานใน “งานเลี้ยงฉลองขอบคุณมิตรสหายทางการทูต ประจำปี 2568” โดยได้แสดงความขอบคุณต่อหุ้นส่วนจากทุกแวดวง ที่ร่วมกันจับมือผลักดันการทูตเชิงบูรณาการ ส่งเสริมให้ประชาคมโลกมองเห็นไต้หวัน

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 23 ธ.ค. 68

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ได้เข้าร่วมเป็นประธานใน “งานเลี้ยงฉลองขอบคุณมิตรสหายทางการทูต ประจำปี 2568” โดยได้ติดต่อเชิญเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนช่วยส่งเสริมภารกิจทางการทูต อาทิ ผู้แทนพิเศษ , คณะที่ปรึกษาประจำกระทรวง , คณะที่ปรึกษาด้านการพัฒนาคุณภาพแบรนด์ภาพลักษณ์ไต้หวัน , คณะที่ปรึกษาทางการทูตและสาธารณสุขการแพทย์ รวมถึงหุ้นส่วนจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งในภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม การแพทย์และวัฒนธรรม เป็นต้น เพื่อร่วมกันย้อนพิจารณาผลสัมฤทธิ์ทางการทูตในภาพรวม ประจำปี 2568 และเพื่อแสดงความขอบคุณด้วยใจจริง โดยในโอกาสนี้ นายลวี่เจี้ยนเต๋อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมด้วย
 
รมว.หลินฯ กล่าวว่า พวกเราผนึกกำลังจากภาครัฐและภาคเอกชน ในการพิสูจน์ให้ประชาคมโลก ประจักษ์เห็นว่า พวกเราเป็นหุ้นส่วนทางความร่วมมือที่เชื่อถือได้ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้ให้การต้อนรับมิตรสหายทั่วโลก รวมจำนวนกว่า 6,000 คน จาก 100 กว่าประเทศ และนับตั้งแต่ที่รมว.หลินฯ เข้ารับตำแหน่งเป็นต้นมา ก็ได้เดินทางเยี่ยมเยือนประเทศพันธมิตรแล้วกว่า 11 ประเทศ อีกทั้งยังได้มีโอกาสเดินทางเยือนสหรัฐฯ , ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศยุโรปที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อจัดแสดงให้เห็นผลสัมฤทธิ์ทางความเชื่อมโยงอันแนบแน่น ระหว่างไต้หวันและประชาคมโลก
 
รมว.หลินฯ เน้นย้ำว่า การที่ไต้หวันสามารถก้าวขึ้นสู่เวทีประชาคมโลก เป็นผลอันเนื่องมาจากศักยภาพของประเทศชาติ ซึ่งศักยภาพของประเทศชาติ ก่อเกิดขึ้นจากบรรดามิตรสหายทางการทูตที่มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน อาทิ ผู้แทนพิเศษที่มุ่งมั่นเชื่อมโยงสู่ประชาคมโลกด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง , คณะที่ปรึกษาที่ให้คำชี้แนะด้านนโยบายทางการทูตและข้อชี้แนะเชิงยุทธศาสตร์ , คณะที่ปรึกษาด้านการพัฒนาคุณภาพแบรนด์ภาพลักษณ์ไต้หวัน ที่ช่วยอัดฉีดองค์ประกอบทางสุนทรียศาสตร์ในการยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศชาติ , คณะที่ปรึกษาทางการทูตและสาธารณสุขการแพทย์ ที่ช่วยผลักดันให้ไต้หวันก้าวขึ้นสู่เวทีโลก รวมถึงมิตรสหายทางการทูตที่ช่วยผลักดันโครงการสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่ประเทศพันธมิตร ซึ่งคณะทำงานทั้งหมดที่กล่าวถึงข้างต้น ต่างมีส่วนช่วยให้กต.ไต้หวัน ประสบความสำเร็จในการยกระดับความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศพันธมิตรและกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน อย่างสหรัฐฯ , ญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป เป็นต้น
 
รมช.ลวี่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จับมือกับกต.ไต้หวัน ในการจัดตั้งคณะที่ปรึกษาด้านการทูตและสาธารณสุขการแพทย์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งสองกระทรวงได้ร่วมบูรณาการทรัพยากรแบบข้ามแวดวงจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมให้การทูตด้านการแพทย์ พัฒนาสู่มิติใหม่ที่เป็นไฮไลท์หลัก ด้วยการประยุกต์ใช้ข้อได้เปรียบของไต้หวัน อาทิ ระบบหลักประกันสุขภาพ เทคโนโลยีการแพทย์และศักยภาพการป้องกันโรคระบาด แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของระบอบประชาธิปไตย ความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญ และการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยได้รับเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลามจากมิตรสหายนานาชาติ ผ่านการดำเนินภารกิจตามหลักการ “ไต้หวันช่วยได้ และไต้หวันกำลังช่วย” (Taiwan can help, and Taiwan is helping) เมื่อเผชิญหน้ากับยุคสมัยหลังสถานการณ์โควิด – 19 ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอน กระทรวงสาธารณสุขฯ มุ่งมั่นในการส่งเสริมการเข้าร่วมในเวทีนานาชาติอย่างกระตือรือร้น ด้วยความชำนาญการเฉพาะทาง ควบคู่ไปกับการจัดตั้งความร่วมมือแบบข้ามหน่วยงานกับกต.ไต้หวัน เพื่อบูรณาการทรัพยากรการแพทย์ การทูต เศรษฐกิจและการค้า ในการเดินหน้าแบ่งปันประสบการณ์ของไต้หวัน ปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ของประเทศหุ้นส่วน สวมบทบาทเป็นหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้ในด้านการแพทย์สาธารณสุขระดับโลก และมุ่งผลักดันให้รูปแบบไต้หวัน ก้าวขึ้นสู่เวทีประชาคมโลก