กระทรวงการต่างประเทศและสภาบริหาร วันที่ 24 – 25 ธ.ค. 68
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับ Mr. Taro Kono อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น Mr. Tanaka Kazunori อดีตรัฐมนตรีว่าการสำนักงานการบูรณะ Mr. Inoue Shinji ผู้รับผิดชอบงาน World Expo 2025 Osaka Kansai และ Mr. Keiichiro Asao อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายต่างร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในประเด็นสถานการณ์ในภูมิภาคและความร่วมมือแบบทวิภาคีในมิติที่หลากหลาย
รมว.หลินฯ กล่าวให้การต้อนรับคณะตัวแทนที่นำโดย Mr. Kono พร้อมกันนี้ รมว.หลินฯ ยังได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อ Ms. Takaichi Sanae นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และอดีตนายกรัฐมนตรีทุกยุคทุกสมัยของญี่ปุ่น ที่ต่างก็เน้นย้ำแสดงจุดยืนความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันบนเวทีนานาชาติอย่างหนักแน่นเป็นจำนวนบ่อยครั้ง โดยรมว.หลินฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายเดินหน้าเสริมสร้างความร่วมมือกันต่อไปในเชิงลึก เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคง เศรษฐกิจและการค้าในระดับภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก
รมว.หลินฯ กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์การขยายตัวของญี่ปุ่น (Japan's Growth Strategy) ที่ยื่นเสนอโดยนรม. Sanae และ 5 อุตสาหกรรมหลักที่มีความน่าเชื่อถือที่ยื่นเสนอโดยประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน มีหลายส่วนที่สอดรับกันอย่างลงตัว
ในวาระโอกาสการเดินทางมาเยือนของคณะตัวแทนสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่น นายจั๋วหรงไท่ นายกรัฐมนตรีไต้หวัน ก็ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนด้วยตนเอง พร้อมทั้งระบุว่า ไต้หวัน - ญี่ปุ่น ยื่นมือให้ความช่วยเหลือแก่กันเมื่อยามที่ต้องการ และจับมือพัฒนาความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างใกล้ชิด ทั้งสันติภาพในระดับภูมิภาค ความร่วมมือทางเทคโนโลยีและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เป็นต้น โดยทั้งสองประเทศมีเป้าหมายร่วมกันคือการส่งเสริมการพัฒนาสันติภาพในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิกในภาพรวม
นรม.จั๋วฯ ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายต่างร่วมเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง อาทิ แผ่นดินไหว , คลื่นสึนามิและพายุไต้ฝุ่น แต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ยังเกื้อหนุนซึ่งกันและกันเมื่อยามที่อีกฝ่ายต้องการ จึงอาจกล่าวได้ว่า ทั้งสองฝ่ายเป็นมิตรสหายที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขของกันและกัน
เมื่อย้อนรำลึกถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในช่วงก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้บริจาควัคซีนจำนวน 4.2 ล้านโดสให้แก่ไต้หวัน ประกอบกับเมื่อช่วงที่ผ่านมา ภายหลังสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดจากทะเลสาบที่กั้นไว้ล้นทะลักจากสันเขื่อนหม่าไท่อัน เมืองฮัวเหลียน หลังทราบเรื่อง กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ได้ส่งมอบการบริจาค “เซ็นเซอร์วัดระดับของเหลวแบบจุ่ม” (Submersible Liquid Level Sensor) เพื่อช่วยวัดค่าระดับน้ำของทะเลสาบ ทั้งนี้ เพื่อช่วยปกป้องความมั่นคงของภาคประชาชน
นรม.จั๋วฯ เน้นย้ำว่า ที่ผ่านมา ไต้หวัน – ญี่ปุ่น เดินหน้าประสานความร่วมมือกันในหลากหลายมิติ ทั้งสันติภาพในระดับภูมิภาค ความร่วมมือทางเทคโนโลยีและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยในจำนวนนี้ สภาบริหารไต้หวันได้ยื่นเสนอ “10 โครงสร้างพื้นฐานด้าน AI” เพื่อตอบสนองต่อกระแสนวัตกรรมและการพัฒนาทางเทคโนโลยี AI นอกจากนี้ “ศูนย์การประมวลผลแบบคลาวด์ขั้นสูงแห่งชาติ” (National Center for High-Performance Computing, NCHC) ก็ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยจะจับมือกับบริษัทโทรคมนาคม Nippon Telegraph and Telephone Corporation (NTT) ของญี่ปุ่น และบริษัทโทรคมนาคม ChungHwa Telecom ของไต้หวัน นำเข้าเทคโนโลยีเครือข่าย All-Photonics ซึ่งจะสามารถช่วยลดการใช้พลังงาน และเพิ่มความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นรม.จั๋วฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือทางเทคโนโลยีดิจิทัล ระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่น มิได้จำกัดเฉพาะเพียงเท่านี้ “การประชุมเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนาม “ความตกลงทางการค้าดิจิทัล ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น” และ “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านศุลกากรในระดับภูมิภาค” เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในภาคส่วนต่างๆ แบบทวิภาคี ทั้งความมั่นคงทางไซเบอร์ , การปราบปรามการทุจริตและการอำนวยความสะดวกในพิธีการศุลกากร เป็นต้น นอกจากนี้ โรงงานแห่งที่ 1 ที่บริษัท TSMC เข้าลงทุนจัดตั้งในจังหวัดคูมาโมโตะ ได้เปิดดำเนินการผลิตแล้ว ส่วนโรงงานแห่งที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่แสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากความร่วมมือแบบทวิภาคี ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น