New Southbound Policy Portal

ร่วมอาลัยนายแพทย์เออร์บานี ผู้ค้นพบโรคซาร์ส รองปธน. เฉินเจี้ยนเหรินวอน ทุกประเทศร่วมกันต้านภัยคุกคามจากโรคติดต่อ

รองปธน.เฉินเจี้ยนเหรินได้ให้การต้อนรับครอบครัวของนายแพทย์คาร์โล เออร์บานี ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 30 ต.ค.61

รองปธน.เฉินเจี้ยนเหรินได้ให้การต้อนรับครอบครัวของนายแพทย์คาร์โล เออร์บานี ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 30 ต.ค.61

ร่วมอาลัยนายแพทย์เออร์บานี ผู้ค้นพบโรคซาร์ส รองปธน. เฉินเจี้ยนเหรินวอน ทุกประเทศร่วมกันต้านภัยคุกคามจากโรคติดต่อ

สำนักข่าว CNA วันที่ 30 ตุลาคม 2561

นายเฉินเจี้ยนเหริน รองประธานาธิบดีไต้หวันสาธารณรัฐจีน ได้แสดงความรำลึกถึงคุณูปการของนายแพทย์คาร์โล เออร์บานี (Dr. Carlo Urbani) ผู้ค้นพบไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง (Severe Acute Respiratory Syndrome: SARS) หรือโรคซาร์ส พร้อมชี้แจงว่าไต้หวันรู้ซึ้งถึงความจำเป็นที่ทั่วโลกควรต้องร่วมมือกันต่อต้านภัยคุกคามจากโรคติดต่อ และกระตือรือร้นที่จะร่วมมือกับทั่วโลกต่อต้านการระบาดของโรคติดต่อ ในโอกาสครบรอบ15 ปีแห่งการระบาดครั้งใหญ่ของโรคซาร์ส ซึ่งไต้หวันเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เคยเผชิญกับโรคร้ายนี้ ต่อมานายแพทย์คาร์โล เออร์บานี แพทย์ชาวอิตาเลียนได้ค้นพบเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคซาร์ส ทำให้สามารถควบคุมการระบาดได้ในที่สุด ช่วยให้ชาวโลกรอดพ้นจากภัยพิบัติที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมากในครั้งนั้น แต่ตัวท่านเองต้องมาเสียชีวิตจากโรคร้ายนี้

 

รองปธน.เฉินเจี้ยนเหรินได้ให้การต้อนรับครอบครัวของนายแพทย์คาร์โล เออร์บานีที่นำโดยนายทอมมาสโซ เออร์บาร์นี (Tommaso Urbani) ประธานสมาคมคาร์โล เออร์บานี เมื่อวันที่ 30 ต.ค.นี้ ที่ทำเนียบประธานาธิบดี รองปธน.เฉินเจี้ยนเหรินระบุว่า นายแพทย์คาร์โล เออร์บานี เป็นผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก (WHO) คนแรกที่เสียชีวิตเพราะดูแลผู้ป่วยโรคซาร์ส

 

เมื่อ15 ปีที่แล้วไต้หวันเกิดการระบาดของโรคซาร์ส ในขณะนั้นรองปธน.เฉินเจี้ยนเหรินดำรงตำแหน่งรมว.สาธารณสุข ได้นำเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และชาวไต้หวันทั้งประเทศต่อสู้กับโรคซาร์ส ทำให้ท่านรู้ซึ้งถึงความยากลำบากที่นายแพทย์เออร์บานีต้องเผชิญในเวียดนามได้เป็นอย่างดี รองผู้นำไต้หวันได้ถือโอกาสนี้เชิญชวนแขกผู้เกียรติทุกคน ยืนไว้อาลัยแสดงความรำลึกถึงนายแพทย์เออร์บานีและชาวไต้หวันที่เสียชีวิตจากโรคซาร์สในครั้งนั้น


รองปธน.เฉินเจี้ยนเหรินระบุว่า ไต้หวันเคยผ่านบทเรียนที่เจ็บปวดจากโรคซาร์สมาแล้ว ทำให้ยิ่งรู้ซึ้งถึงความจำเป็นที่ทั่วโลกควรต้องร่วมมือกันต่อต้านภัยคุกคามจากโรคติดต่อ ดังนั้นในช่วง 15 ปีที่ผ่านมานอกจากได้พยายามยกระดับการเฝ้าระวังและรับมือกับการระบาดของโรคร้ายแล้ว ยังต้องเสริมสร้างความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของไต้หวัน และมีความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกระบวนการต่อต้านการระบาดของโรคติดต่อโลก อาทิ ในปี 2014 ได้บริจาคชุดป้องกันการติดเชื้อจำนวน 100,000 ชุดและบริจาคเงิน 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือทีมแพทย์นานาชาติที่เข้าไปควบคุมการระบาดของโรคอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก นอกจากนี้นับจากปี 2015 เป็นต้นมา ไต้หวันได้ร่วมมือกับสหรัฐฯ จัดฝึกอบรมเรื่องการป้องกันการระบาดของโรคติดต่อร้ายแรงอาทิ โรคอีโบลา MERS ไข้เลือดออก ไข้ซิกา โรคชิคุนกุนยาและโรคมือ เท้า ปาก เป็นต้น รวม 6 ครั้ง มีเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์และการป้องกันโรคติดต่อจาก 20 ประเทศเข้าร่วมฝึกอบรม ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายการป้องกันและการเฝ้าระวังโรคติดต่อระหว่างประเทศ

 

รองผู้นำไต้หวันยังระบุว่า รัฐบาลไต้หวันกำลังผลักดันนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ในปี 2018 ได้มีการจัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีและศูนย์บริการสุขภาพแก่ประชาชนในประเทศนโยบายมุ่งใต้ใหม่ จัดตั้งเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อป้องกันโรคติดต่อระดับโลก ช่วยเหลือประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกระดับการรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรคติดต่อขั้นพื้นฐานเพื่อรับประกันความปลอดภัยด้านสาธารณสุขโลก