New Southbound Policy Portal

การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคประจำปีนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-18 พ.ย.นี้ ที่ปาปัวนิวกินี ดร.จางจงโหมว (กลาง) เป็นตัวแทนผู้นำไต้หวันไปร่วมการประชุมครั้งนี้ จัดแถลงข่าวก่อนออกเดินทางร่วมกับนางเฉินเหมยหลิง (ซ้าย) ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและนายเติ้งเจิ้นจง (ขวา) รัฐมนตรีประจำสภาบริหาร เมื่อวันที่12 พ.ย. สำนักข่าว CNA วันที่ 12 พ.ย. 61
จางจงโหมวร่วมการประชุมสุดยอดเอเปค พร้อมระบุ ไต้หวันเป็นห่วงโซ่อุปทานสำคัญของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล
สำนักข่าว CNA 12 พฤศจิกายน 2561
ดร.จางจงโหมว หรือมอริส จาง ซึ่งจะเป็นตัวแทนของไต้หวันเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคในปีนี้ จะกล่าวอภิปรายเป็นภาษาอังกฤษในที่ประชุม โดยจะระบุถึง ไต้หวันเป็นฟันเฟืองสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ไม่ควรถูกละเลยหรือมองข้าม ไต้หวันยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าร่วมการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในปัจจุบันและในอนาคต
การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคประจำปีนี้ มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-18 พฤศจิกายนนี้ ที่ปาปัวนิวกินี โดย ดร.จางจงโหมวซึ่งเป็นตัวแทนของผู้นำไต้หวันไปร่วมการประชุมครั้งนี้พร้อมด้วยมาดามจางสูเฟิน ภริยา มีกำหนดจะออกเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้และจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคซึ่งเป็นการประชุมที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนทันที คาดการณ์ว่าจะมีการประกาศแถลงการณ์ร่วมผู้นำเอเปคในวันที่ 18 พ.ย.นี้
ดร.จางจงโหมวได้เปิดแถลงข่าวหลังนำคณะตัวแทนไต้หวันที่จะเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดเอเปคประจำปีนี้เข้าพบคารวะประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวันสาธารณรัฐจีน เมื่อเช้าวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงภารกิจในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคประจำปีนี้ โดยระบุว่า ขอชี้แจง 2 ประเด็น ประเด็นที่ 1 เอเปคเป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การประชุมเอเปคเป็นการประชุมด้านเศรษฐกิจ ไม่ใช่การประชุมด้านการเมืองหรือการต่างประเทศ แต่เป็นการประชุมเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ดังนั้นท่านจึงเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ในฐานะผู้นำทางเศรษฐกิจ ประเด็นที่ 2 ท่านเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ในฐานะตัวแทนของ Chinese Taipei ปธน.ไช่อิงเหวินย้ำเตือนว่า ขอให้ไตร่ตรองปัญหาเศรษฐกิจในมุมมองของผู้นำประเทศ ดร.จางจงโหมวเผยว่า หลังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับปธน.ไช่อิงเหวินแล้ว จึงจะเสนอแนวคิดของตนเองต่อที่ประชุม
ดร.จางจงโหมวระบุว่า การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคจัดขึ้นในวันที่ 18 พ.ย.เพียงวันเดียวเท่านั้น มีผู้นำประเทศและเขตเศรษฐกิจ 21 แห่งเข้าร่วมการประชุม ในการประชุมอย่างเป็นทางการ ผู้นำทุกคนต้องอภิปรายเป็นเวลา 6 นาที ซึ่งท่านจะใช้ภาษาอังกฤษในการอภิปราย และเนื้อหาการอภิปรายนั้นปธน.ไช่ฯ ได้อ่านแล้วและรู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่ง
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ดร.จางจงโหมวยังได้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของคำอภิปรายดังกล่าว ซึ่งระบุถึง ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของประชาชนในประเทศสมาชิกเอเปคกว่า1,000 ล้านคน ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ เปลี่ยนแปลงวิธีการติดต่อผูกสัมพันธ์กับเพื่อนฝูง และเปลี่ยนแปลงด้านการเมือง
ดร.จางจงโหมวยังระบุว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทำให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่และส่งผลให้บทบาทอุตสาหกรรมดั้งเดิมลดลง เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอนของนักเรียนและครู สร้างศัพท์ใหม่ให้แก่เหล่าปัญญาชน ความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายทั้งมวลนี้ถูกเรียกรวมกันว่า เศรษฐกิจดิจิทัล โดยการสร้างสรรค์นวัตกรรมคือตัวกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจดิจิทัล และตลาดทุนนิยมคือเวทีของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ขณะที่ห่วงโซ่อุปทานของเศรษฐกิจดิจิทัลประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และสิงคโปร์ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นเพราะประเทศเหล่านี้ ล้วนเป็นดินแดนที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่และเป็นตลาดทุนนิยม
ดร.จางจงโหมวยังกล่าวว่า ทุกคนคงมองเห็นปัญหาของเศรษฐกิจดิจิทัล อาทิ ปัญหาด้านการเพิ่มผลผลิต ภาษีศุลกากร และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น ในฐานะตัวแทนของ Chinese Taipei ท่านจะเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ในการประชุมระดับทวิภาคีและระดับพหุภาคีของเอเปค เพราะการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งเป็นปัญหาของเศรษฐกิจดิจิทัลในปัจจุบัน จะช่วยให้ก้าวไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต
ในตอนท้าย ดร.จางจงโหมวระบุว่า ท่านจะย้ำในที่ประชุมว่า แม้ Chinese Taipei เป็นเพียงเขตเศรษฐกิจขนาดกลางแต่เป็นฟันเฟืองสำคัญของห่วงโซ่อุปทานในระบบเศรษกิจดิจิทัล ที่ไม่ควรถูกละเลยหรือมองข้าม Chinese Taipei ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าร่วมการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในปัจจุบันและในอนาคต