New Southbound Policy Portal

ปธน.ไช่อิงเหวิน (ขวา) พบปะกับคณะตัวแทนจากสถาบันวิจัยนโยบายต่างประเทศและยุทธศาสตร์ (CSIS) คลังสมองสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ทำเนียบประธานาธิบดี สำนักข่าว CNA วันที่ 20 พ.ย. 61
ปธน.ไช่อิงเหวินระบุ ไต้หวันยืนหยัดเสรีภาพด้านการแสดงความคิดเห็นและเป็นแนวหน้าในการต่อต้านข้อมูลเท็จ
สำนักข่าว CNA วันที่ 20 พ.ย. 61
ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน สาธารณรัฐจีนระบุว่า ประเทศเผด็จการอาศัยเสรีภาพด้านการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพของสื่อในระบอบประชาธิปไตย เผยแพร่ข้อมูลเท็จเพื่อบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตย จากการที่ไต้หวันยืนหยัดเสรีภาพด้านการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพของสื่อทำให้ไต้หวันกลายเป็นแนวหน้าในการต่อต้านข้อมูลเท็จ
เช้าวันที่ 20 พฤศจิกายน ปธน.ไช่อิงเหวินได้พบปะกับคณะตัวแทนจากสถาบันวิจัยนโยบายต่างประเทศและยุทธศาสตร์ (Center for Strategic & International Studies : CSIS) คลังสมองสหรัฐฯ ที่ทำเนียบประธานาธิบดี ผู้นำไต้หวันกล่าวในตอนต้นของการปราศรัยว่า ขอแสดงความเสียใจต่อการเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
ปธน.ไช่อิงเหวินระบุว่า ท่านรู้สึกยินดีที่รายงานประจำปีของคณะกรรมาธิการพิจารณาความปลอดภัยด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ-จีน สภาคองเกรสที่นำออกเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ระบุถึงสถานภาพของไต้หวันที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย มีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์การเมืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเป็นอย่างยิ่ง โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาทางการปักกิ่งพยายามทำสงครามการเมืองเพื่อก่อกวนไต้หวันอย่างหนัก ด้วยวิธีการต่างๆอาทิ เผยแพร่ข่าวปลอมผ่านสื่อสังคมออนไลน์และหนุนหลังพรรคฝ่ายค้าน โดยหวังบ่อนทำลายกลไกของประชาธิปไตยและรัฐบาลไต้หวัน
ปธน.ไช่อิงเหวินชี้ว่า ไม่เพียงไต้หวันเท่านั้น ปัจจุบันประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก กำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากประเทศเผด็จการที่อาศัยเสรีภาพด้านการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพของสื่อในระบอบประชาธิปไตย เผยแพร่ข้อมูลเท็จและยุแหย่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม ตลอดจนบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตย
ผู้นำไต้หวันระบุว่า ความเจริญก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีส่งผลให้ภัยคุกคามในรูปแบบใหม่อันตรายกว่าที่ทุกคนคาดคิด ดังจะเห็นได้จากเมื่อเร็วๆนี้ James Moriarty ผู้อำนวยการสถาบันอเมริกันประจำไต้หวัน (AIT) ให้สัมภาษณ์แก่สื่อโทรทัศน์ว่า การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นของไต้หวันในครั้งนี้ มีอำนาจจากภายนอกพยายามใช้สื่อมาชี้นำและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ปรากฏการณ์เช่นนี้นับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
ปธน.ไช่อิงเหวินยังระบุว่า เนื่องจากไต้หวันยืนหยัดเสรีภาพด้านการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพของสื่อ ทำให้ไต้หวันกลายเป็นแนวหน้าในการต่อต้านข้อมูลเท็จ หวังว่าไต้หวันจะสามารถเพิ่มความร่วมมือกับประเทศที่มีอุดมการณ์คล้ายคลึงกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการร่วมกันปกป้องค่านิยมด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและการเคารพกฎหมาย
ผู้นำไต้หวันชี้ว่า เมื่อเดือนที่แล้วไต้หวันกับสหรัฐฯ ได้ร่วมกันจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF (Global Cooperation and Training Framework) เพื่อผลักดันการรู้เท่าทันสื่อ(Media Literacy ) และนี่คือแบบอย่างที่ดีในการร่วมมือกันของทั้งสองฝ่ายเพื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ที่ต่างจากแบบดั้งเดิม ในตอนท้ายผู้นำไต้หวันกล่าวว่ารู้สึกยินดีที่มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกคน