New Southbound Policy Portal
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 61 รัฐสภายุโรปมีมติเห็นชอบสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์กรระหว่างประเทศ พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการรื้อฟื้นการเจรจาระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน โดยกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้แสดงความยินดีและขอบคุณที่รัฐสภายุโรปให้การสนับสนุนไต้หวันอีกครั้ง (ภาพจากรัฐสภายุโรป)
รัฐสภายุโรปได้มีการจัดประชุมใหญ่ ณ เมืองสตาร์บูรก์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยมีการพิจารณาและรับรองมตินโยบายร่วมด้านการต่างประเทศและความมั่นคง (CFSP) ประจำปีที่คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปเสนอต่อรัฐสภายุโรป การพิจารณาเห็นชอบมติในครั้งนี้เน้นไปที่การสร้างความเข้มแข็งด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิก พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการรื้อฟื้นการเจรจาระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในพื้นที่ทะเลตะวันออกและทะเลจีนใต้ แก้ปัญหาความคิดเห็นที่แตกต่างกันด้วยสันติวิธี รวมทั้งแสดงจุดยืนสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์กรระหว่างประเทศ ด้านกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้แสดงความยินดีและขอบคุณรัฐสภายุโรปในสัมพันธภาพอันดีระหว่างกันและให้การสนับสนุนไต้หวันอีกครั้ง
มติดังกล่าวเป็นข้อเสนอแนะนโยบายในภาพรวมที่หน่วยงาน SEDE (Subcommittee on Security and Defence) ของคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปเป็นผู้เสนอ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากสมาชิกสภายุโรปที่มาจากกลุ่มการเมืองต่างๆ ในประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป โดยมีเนื้อหาสำคัญที่เน้นย้ำว่า สหภาพยุโรปควรที่จะบรรลุความเห็นพ้องในนโยบายด้านการต่างประเทศและความมั่นคงไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับอำนาจทางเศรษฐกิจและความมั่นคงจากประเทศจีนและรัสเซีย ที่ควรจะต้องเป็นไปตามพหุภาคีระหว่างประเทศตลอดจนการเสริมสร้างบทบาทที่สำคัญของสหภาพยุโรปในการกำกับดูแลโลก
สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในฐานะสมาชิกที่สำคัญของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก พร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในสองฝั่งช่องแคบไต้หวันอย่างสุดกำลัง โดยมีความกระตือรือร้นและมีบทบาทเชิงบวกต่อการรักษาความมั่นคงในภูมิภาคที่มากขึ้น ไต้หวันต้องการจะกระชับความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรปตลอดจนหุ้นส่วนที่มีแนวความคิดใกล้เคียงกันให้แนบแน่นยิ่งขึ้น และหวังว่าประชาคมโลกจะให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อร่วมกันปกป้องสันติภาพ ความมั่นคงและความรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก