New Southbound Policy Portal

ประธานาธิบดีไช่ขอบคุณสภายุโรปที่หนุนไต้หวันก้าวสู่เวทีนานาชาติ

ระหว่างให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากสภายุโรป ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแสดงความคาดหวังว่า จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ในเชิงลึกในด้านการค้าและเศรษฐกิจให้มากขึ้น ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 19 ธ.ค. 61

ระหว่างให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากสภายุโรป ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแสดงความคาดหวังว่า จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ในเชิงลึกในด้านการค้าและเศรษฐกิจให้มากขึ้น ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 19 ธ.ค. 61

ประธานาธิบดีไช่ขอบคุณสภายุโรปที่หนุนไต้หวันก้าวสู่เวทีนานาชาติ

สำนักข่าว CNA วันที่ 19 ธ.ค. 61

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมสภายุโรปได้มีมติเห็นชอบให้ผ่านร่างนโยบาย Common Foreign and Security Policy (CFSP) โดยได้ให้การสนับสนุนไต้หวันในการเข้ามีบทบาทในองค์กรระหว่างประเทศมากขึ้น ซึ่งเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินได้กล่าวขอบคุณสภายุโรปที่แสดงความเป็นมิตรและให้การสนับสนุนความเป็นประชาธิปไตยของไต้หวัน ซึ่งไต้หวันในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคอินโดแปซิฟิก จะพยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างความร่วมมือกับประเทศที่มีแนวคิดใกล้เคียงกัน

 

โดยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากสภายุโรปที่เดินทางมาเยือนไต้หวัน ซึ่งประธานาธิบดีไช่ได้กล่าวระหว่างการปราศรัยต้อนรับว่า ขอบคุณท่าน Agustin Diaz De Mera สมาชิกสภายุโรปที่ให้การสนับสนุนไต้หวันมาโดยตลอด โดยประธานาธิบดีไช่ชี้ว่า ในปี 2010 ท่าน Agustin Diaz De Mera ก็เป็นผู้ที่ช่วยผลักดันให้ไต้หวันได้รับการยกเว้นวีซ่า ในการเดินทางเข้าประเทศในกลุ่มเชงเก้น ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการย่นระยะระหว่างไต้หวันกับยุโรป แต่ยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศ ทำให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวไต้หวันที่เดินทางไปยังประเทศยุโรปในปี 2017 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ามากกว่าร้อยละ 90

 

ประธานาธิบดีไช่ชี้ว่า นอกจากการแลกเปลี่ยนภาคประชาชนระหว่างไต้หวันกับยุโรปจะมีความใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว การค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในปี 2017 มูลค่าการค้าระหว่างไต้หวันและยุโรปคิดเป็นมูลค่ารวมสูงถึง 50,200 ล้านเหรียญยูโร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย

 

ประธานาธิบดีไช่ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในเดือนมิถุนายนของปีนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านการรวมกลุ่มทางอุตสาหกรรม เชื่อว่าความร่วมมือนี้จะเป็นแรงผลักดันใหม่ๆ ให้กับกลุ่มบริษัท SMEs และกลุ่ม ธุรกิจ Start-up ให้สามารถสร้างความร่วมมือกับนานาชาติได้ พร้อมหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความสัมพันธ์ในเชิงลึกกันมากขึ้นในด้านการค้าและเศรษฐกิจ อันจะเป็นการดึงดูดให้มีการลงทุนในระหว่างทั้งสองฝ่าย และเป็นการสร้างตำแหน่งงานให้กับประชาชนของทั้งสองฝ่ายต่อไป

 

ประธานาธิบดีไช่กล่าวว่า นอกจากความก้าวหน้าที่สำคัญในประเด็นต่างๆ เหล่านี้แล้ว ไต้หวันยังยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สภายุโรปจะให้ความสนับสนุนไต้หวันในการร่วมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงให้กับภูมิภาคนี้ บนพื้นฐานของคุณค่าแห่งการแบ่งปัน รวมถึงมีส่วนร่วมในการผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืน

 

ประธานาธิบดีไช่ย้ำว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภายุโรปได้ผ่านร่างนโยบาย Common Foreign and Security Policy (CFSP) โดยย้ำจุดยืนในการให้ความสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์กรระหว่างประเทศ จึงขอขอบคุณสภายุโรปที่ได้แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพและการสนับสนุนที่มีต่อความเป็นประชาธิปไตยของไต้หวัน และในฐานะที่ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคอินโดแปซิฟิก จะพยายามสร้างความร่วมมือกับประเทศที่มีแนวคิดใกล้เคียงกัน รวมถึงจะพยามอย่างเต็มที่ในการอุทิศตนเพื่อร่วมแก้ไขปัญหา ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ทั้งด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน