New Southbound Policy Portal
ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินให้การต้อนรับคณะผู้ได้รับรางวัล The National Golden Award for Architecture ครั้งที่ 20 และรางวัล The National Brand Yushan Award ครั้งที่ 15 ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 27 ธ.ค. 61
ปธน.ไช่หวังว่า วงการสถาปัตยกรรมไต้หวันจะร่วมกับภาครัฐสร้างปรากฏการณ์ใหม่ทางวิศวกรรม
สำนักข่าว CNA วันที่ 27 ธ.ค. 61
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้แสดงความคาดหวังว่า ผู้ประกอบการในแวดวงก่อสร้างทั้งหมดจะจับมือกับภาครัฐ ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดเป็นปรากฏการณ์ใหม่ทางวิศวกรรมของไต้หวัน ในช่วงศตวรรษที่ 21 อันจะส่งผลให้แบรนด์ไต้หวันสามารถเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติมากขึ้น
โดยประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ได้แสดงความคิดเห็นข้างต้นระหว่างให้การต้อนรับคณะผู้ได้รับรางวัล The National Golden Award for Architecture ครั้งที่ 20 และรางวัล The National Brand Yushan Award ครั้งที่ 15
ประธานาธิบดีไช่กล่าวว่า รางวัลสถาปัตยกรรมทองคำแห่งชาติ ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดของวงการสถาปัตยกรรมในไต้หวัน ในช่วงหลายปีมานี้ ได้ช่วยพัฒนาและยกระดับคุณภาพทางวิศวกรรมควบคู่ไปกับความงดงามทางสถาปัตยกรรมของไต้หวันได้ไม่น้อย พร้อมทั้งยังทำให้เกิดกระแสการฉุกคิดต่อปัญหาต่างๆ
ประธานาธิบดีไช่อธิบายเพิ่มเติมว่า อย่างเช่นการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถือเป็นนโยบายที่เป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาล การผลักดัน “อาคารสีเขียวอัจฉริยะ” ได้นำเอาธรรมชาติ การประหยัดพลังงาน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน มาใช้เป็นปัจจัยสำคัญ ที่มีการหลอมรวมเข้ากับแรงบันดาลใจในการออกแบบและก่อสร้างในทุกขั้นตอน ด้วยความหวังว่ากระบวนการต่างๆ ในการก่อสร้าง จะสามารถทำได้ถึงระดับของการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีความสมดุลกับธรรมชาติ
ประธานาธิบดีไช่เห็นว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างถือเป็นหัวรถจักรสำคัญของทุกอุตสาหกรรมในไต้หวัน การนำเอานวัตกรรมใหม่ทั้งในด้านการประหยัดพลังงานและวัสดุที่ถูกนำมาใช้งาน จึงกลายมาเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับไต้หวันทั้งประเทศ ในด้านการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ประธานาธิบดีไช่ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมารางวัล The National Brand Yushan Award ถือเป็นรางวัลเกียรติยศสำหรับคุณภาพในขั้นสูงสุด การที่เศรษฐกิจไต้หวันสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ก็เป็นเพราะไต้หวันมีผู้ประกอบการที่ทุ่มเทและทำงานหนักอย่างไม่ย่อท้ออยู่เป็นจำนวนไม่น้อย จนทำให้สามารถสร้างแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติขึ้นมาได้ และส่งผลให้แบรนด์ของไต้หวันสามารถรักษาภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและมีแนวโน้มที่สดใสในเวทีโลก โดยเฉพาะในส่วนของรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมประจำปี ที่ให้ความสนับสนุนผู้ประกอบการให้หันมาให้ความสำคัญกับการค้นคว้าวิจัยและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในขณะเดียวกันก็มีการสอดใส่แนวคิดหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาในกระบวนการผลิต เพื่อกระตุ้นให้เกิดการยกระดับของอุตสาหกรรมสู่ความทันสมัยมากขึ้น