New Southbound Policy Portal

ปธน.ไช่อิงเหวินระบุ การเจรจาทางการเมืองระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ต้องเจรจาโดยรัฐบาล

ปธน.ไช่อิงเหวินเปิดแถลงข่าวฉุกเฉินเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เพื่อโต้ถ้อยแถลงของสีจิ้นผิง ผู้นำจีน โดยระบุว่า ชาวไต้หวันส่วนใหญ่คัดค้าน “หนึ่งประเทศสองระบบ” และนี่คือ “ฉันทามติไต้หวัน”

ปธน.ไช่อิงเหวินเปิดแถลงข่าวฉุกเฉินเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เพื่อโต้ถ้อยแถลงของสีจิ้นผิง ผู้นำจีน โดยระบุว่า ชาวไต้หวันส่วนใหญ่คัดค้าน “หนึ่งประเทศสองระบบ” และนี่คือ “ฉันทามติไต้หวัน”

ปธน.ไช่อิงเหวินระบุ การเจรจาทางการเมืองระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ต้องเจรจาโดยรัฐบาล

หนังสือพิมพ์ยูไนเต็ดเดลินิวส์ วันที่ 3 ม.ค. 62

กรณีที่นายสีจิ้นผิง ผู้นำจีน แถลง 5 แนวทางเกี่ยวกับไต้หวันเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ปธน.ไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวันสาธารณรัฐจีน ระบุว่า ยินดีเปิดการเจรจากัน แต่ในฐานะที่เป็นประเทศประชาธิปไตย หากเป็นการหารือหรือการเจรจาทางการเมืองระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ต้องได้รับมอบอำนาจหรือสอดส่องโดยประชาชนชาวไต้หวันและต้องเป็นการเจรจาระหว่างรัฐบาลของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น ภายใต้หลักการนี้ ไม่มีบุคคลหรือกลุ่มองค์กรใด มีสิทธิเป็นตัวแทนชาวไต้หวันเปิดการเจรจาทางการเมืองดังกล่าว

 

ด้านสภาบริหาร ไต้หวันสาธารณรัฐจีน แถลงว่า ประชาชนในไต้หวันสาธารณรัฐจีนไม่อาจยอมรับ “หลักการจีนเดียว” และไม่ยอมรับ “หนึ่งประเทศสองระบบ” รวมถึง “ฉันทามติ1992” โดยไต้หวันและจีนไม่มีฉันทามติดังกล่าว การเจรจาระหว่างไต้หวันกับจีนต้องได้รับการยอมรับและสอดส่องโดยประชาชนชาวไต้หวัน ชาวไต้หวันจะร่วมกันตัดสินอนาคตของไต้หวันเอง

 

ขณะที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลออกแถลงการณ์เรียกร้องสีจิ้นผิง ต้องให้ความสำคัญกับความเป็นเอกราชและอธิปไตยของไต้หวัน ซึ่ง “ปัจจุบันมีชื่อว่า สาธารณรัฐจีน” และจีนต้องให้ความสำคัญกับความคงอยู่ของสาธารณรัฐจีน

 

ปธน.ไช่อิงเหวินระบุว่า จีนต้องให้ความสำคัญกับความคงอยู่ของไต้หวันสาธารณรัฐจีน ไม่ใช่ปฏิเสธไต้หวันซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ประชาชนชาวไต้หวันร่วมกันสร้างขึ้นมา ต้องเคารพการยืนหยัดในระบอบประชาธิปไตยของชาวไต้หวันจำนวน 23 ล้านคน ไม่ใช่พยายามเข้าแทรกแซงการตัดสินใจของชาวไต้หวัน ด้วยการสร้างความแตกแยกและใช้ผลประโยชน์มาหลอกล่อ ต้องใช้สันติวิธีและหลักความเสมอภาคมาแก้ไขปัญหาไต้หวัน ไม่ใช่กดดันและข่มขู่ให้ชาวไต้หวันยอมสยบ ต้องเปิดเจรจากันโดยรัฐบาลหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายอำนาจจากรัฐบาลทั้งสองฝ่าย การเจรจาทางการเมืองที่ไม่ได้รับมอบหมายหรือสอดส่องจากประชาชน ไม่ถือว่าเป็น “การเจรจาแบบประชาธิปไตย”

 

ผู้นำไต้หวันยังระบุว่า ยินดีจะติดต่อแลกเปลี่ยนกับจีนอย่างมีขั้นตอนที่เป็นปกติ ภายใต้หลักการ “ประชาธิปไตย” และ ”ความปลอดภัยของชาติ” พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจการค้าระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันควรเป็นไปภายใต้หลักการ เกิดประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายและร่วมการสร้างความเจริญรุ่งเรือง คัดค้านหลักการ “เป็นประโยชน์ต่อจีน” และนโยบายรวมชาติทางเศรษฐกิจของทางการปักกิ่ง ที่ใช้ผลประโยชน์มาหลอกล่อและดึงดูดเทคโนโลยี เงินทุนและบุคลากรไต้หวัน ให้ “ก้าวเข้าไปสู่อ้อมกอดของจีนแผ่นดินใหญ่”

 

ปธน.ไช่อิงเหวินย้ำว่า สัญญาใจ น่าจะหมายถึง การเคารพและเข้าใจซึ่งกันและกัน และมีขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับความผาสุกของประชาชนบนสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน อาทิ สถานการณ์โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เป็นต้น การกดดันกลุ่มธุรกิจข้ามชาติลบและแก้ชื่อไต้หวัน ไม่ทำให้มีสัญญาใจระหว่างกันเกิดขึ้น ใช้เงินซื้อประเทศพันธมิตรไต้หวัน แล้วจะสร้างสัญญาใจต่อกันได้อย่างไร ใช้เครื่องบินรบและเรือรบแล่นวนรอบเกาะไต้หวัน ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างสัญญาใจกัน

 

ผู้นำไต้หวันกล่าวว่า ผลการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น 9 รายการที่ผ่านมา ไม่ได้หมายความว่า ประชาชนชาวไต้หวันต้องการละทิ้งอธิปไตยของชาติ และอยากจะละทิ้งความเป็นเอกเทศแต่อย่างใด

 

ด้านคณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ สภาบริหารไต้หวัน สาธารณรัฐจีนออกแถลงการณ์ในวันที่ 2 ธ.ค. ระบุว่า ”การเจรจาแบบประชาธิปไตย” และ “การเจรจาทางการเมือง” ที่สีจิ้นผิงเสนอ ไม่ได้ระบุถึงความคงอยู่ของสาธารณรัฐจีนเลย เป็นไปไม่ได้ที่ระบอบเผด็จการจะมี “การเจรจาแบบประชาธิปไตย” ไต้หวันไม่มีวันยอมรับข้อเสนอที่ต้องการลบล้างอธิปไตยของชาติ แถลงการณ์ของคณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ยังระบุว่า ถ้อยแถลงของสีจิ้นผิงที่เกี่ยวกับไต้หวันในครั้งนี้ เป็นกุศโลบายเพื่อรวมชาติ และสร้างความแตกแยกให้แก่ไต้หวันที่แนบเนียน สะท้อนให้เห็นว่าจีนเร่งรีบที่จะรวมชาติโดยเร็ว นอกจากนี้ การกำหนดเงื่อนไข “จีนเดียว” ก่อน “การเจรจาแบบประชาธิปไตย” เป็นการสร้างความแตกแยกให้แก่ไต้หวันและล้มล้างอธิปไตยของสาธารณรัฐจีนออกจากการเจรจานั่นเอง