New Southbound Policy Portal

หนังสือพิมพ์ LibertyTimes วันที่ 26 เม.ย. 62

 

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. คณะกรรมการการเกษตร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสำนักงานพันธุ์พืชของสหภาพยุโรป(CPVO) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับรายงานผลตรวจสอบพันธุ์กล้วยไม้ฟาแลนนอปซิส(DUS Report of Phalaenopsis and Doritaenopsis) ซึ่งกันและกัน ซึ่งช่วยให้ผู้เลี้ยงกล้วยไม้ ลดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลาในการยื่นขอจดทะเบียนและตรวจสอบสิทธิในพันธุ์กล้วยไม้ฟาแลนนอปซิสจากสหภาพยุโรป (EU)

 

ศักยภาพการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ของไต้หวันมีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงต่างประเทศ โดยในแต่ละปีผลิตเมล็ดพันธุ์เพื่อส่งออกให้กว่า 80 ประเทศ ปีที่แล้วยอดส่งออกกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิสอยู่ที่ 73.93 ล้านต้น มูลค่ารวม150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 69% ของมูลค่าการส่งออกดอกไม้ทั้งหมด และได้กลายเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญของไต้หวัน

 

ทวีปยุโรปเป็นตลาดกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ละปีมียอดจำหน่ายประมาณ 150 ล้านกระถาง โดยส่วนใหญ่นำเข้าเมล็ดพันธุ์จากไต้หวัน หรือประมาน 20 ล้านต้น นับเป็นตลาดเมล็ดพันธุ์กล้วยไม้ที่สำคัญของไต้หวัน

 

ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับรายงานผลตรวจสอบพันธุ์และคุณลักษณะทางพันธุกรรมของกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิส (DUS Report of Phalaenopsis and Doritaenopsis) ซึ่งกันและกันระหว่างไต้หวันกับ CPVO ครั้งนี้ ผู้ทรงสิทธิในพันธุ์กล้วยไม้ที่ผ่านการรับรองจากไต้หวันแล้ว ขณะที่ยื่นขอจดทะเบียนสิทธิจากสหภาพยุโรปให้แนบเอกสารรับรองและรายงานผลตรวจสอบดังกล่าว ก็จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการยื่นเรื่องตรวจสอบ เพียงแค่หิ้วกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิส 5 ต้นที่ผลิดอกแล้วไปที่หน่วยงานตรวจสอบNaktuinbouw ประเทศเนเธอร์แลนด์เท่านั้น อีกทั้งสามารถย่นระยะเวลาการตรวจสอบได้ประมาณ 1 ปี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อความร่วมมือในการเพาะเลี้ยงและการผลิตเมล็ดพันธุ์ระหว่างไต้หวัน – EU และยังเป็นการกระตุ้นธุรกิจซื้อขายดอกไม้ของทั้งสองฝ่ายอีกด้วย

 

คณะกรรมการการเกษตรไต้หวัน เน้นย้ำว่า ในอนาคตจะเร่งเจรจากับ EU และประเทศอื่นๆ ในการยอมรับรายงานตรวจสอบพันธุ์และคุณลักษณะทางพันธุกรรมของกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิสซึ่งกันและกัน เพื่อย่นระยะเวลาการจดทะเบียนสิทธิในพันธุ์กล้วยไม้คุณภาพเยี่ยมของไต้หวันในประเทศต่างๆ