New Southbound Policy Portal
นายหลินจื้อเจีย เลาขาธิการสภานิติบัญญัติไต้หวัน นำคณะข้าราชการพลเรือน เดินทางไปร่วมแลกเปลี่ยนที่รัฐสภา ระหว่างวันที่ 15 – 17 ก.ค. ในภาพคือนายหลินจื้อเจีย (ที่ 2 จากขวา) เดินทางไปเข้าพบ Mr. Klaus Welle (ที่ 2 จากซ้าย) เลขาธิการรัฐสภายุโรป ภายใต้การนำของนายเจิงโฮ่วเหริน (ที่ 1 จากขวา) ผู้แทนไต้หวันประจำสหภาพยุโรปและเบลเยี่ยม (ภาพจากสภานิติบัญญัติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)) สำนักข่าว CNA วันที่ 18 ก.ค. 62
สำนักข่าว CNA วันที่ 18 ก.ค. 62
ในสัปดาห์นี้ สภานิติบัญญัติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดคณะข้าราชการพลเรือน เดินทางไปเยี่ยมเยือนรัฐสภายุโรป เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ในด้านการต่างประเทศผ่านรัฐสภา โดยในอนาคตทั้งสองฝ่ายมีแผนการที่จะจัดตั้งโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างข้าราชการพลเรือนไต้หวัน – รัฐสภายุโรปขึ้นเป็นวาระประจำ เพื่อทลายกรอบความสัมพันธ์เดิม ที่จำกัดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น ที่จะมีสิทธิร่วมแลกเปลี่ยน โดยจะขยายการแลกเปลี่ยนเชิงลึกไปยังเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ หรือที่เรียกว่าข้าราชการพลเรือนในหน่วยงานองค์กรต่างๆ ด้วย
โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา สภานิติบัญญัติไต้หวันได้เผยแพร่จดหมายข่าวซึ่งระบุว่า นายหลินจื้อเจีย เลขาธิการสภานิติบัญญัติไต้หวัน ได้ตอบรับคำเชิญของ Mr. Klaus Welle เลขาธิการรัฐสภายุโรป ในการนำคณะตัวแทนข้าราชการพลเรือนฝ่ายเลขาธิการ ฝ่ายบริหารกิจการรัฐสภา ฝ่ายธุรการ สำนักกฎหมาย และฝ่ายบุคคล ร่วมเดินทางไปดำเนินการประชุมแลกเปลี่ยนยังรัฐสภายุโรป ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่สภานิติบัญญัติไต้หวัน ได้จัดคณะตัวแทนเดินทางไปเยือนรัฐสภายุโรปด้วย
นายหลินจื้อเจียได้เสนอความคิดเห็นขณะเข้าพบปะหารือกับ Mr. Klaus Welle เลขาธิการรัฐสภายุโรป โดยระบุถึงความคาดหวังในการจัดตั้งโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างข้าราชการพลเรือนไต้หวัน – รัฐสภายุโรปขึ้นเป็นวาระประจำ ซึ่ง Mr. Klaus Welle ได้ให้การตอบนองเชิงบวกกับข้อเสนอของนายหลินจื้อเจีย โดยอ้างอิงถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภายุโรปกับอินเดียและรัฐสภาสหรัฐฯ ในด้านการจัดการแลกเปลี่ยนขึ้นเป็นวาระประจำขึ้นเช่นเดียวกัน จึงเห็นด้วยที่รัฐสภายุโรป – สภานิติบัญญัติไต้หวันจะจัดตั้งกลไกระบบโครงการแลกเปลี่ยนข้าราชการพลเรือนระหว่างสภาเป็นวาระประจำ
การเยือนครั้งนี้ คณะตัวแทนได้เข้าพบปะกับ Mr. Klaus Welle และคณะกรรมการของแต่ละพรรค การเมือง ระหว่างการหารือ Mr. Klaus Welle ได้กล่าวชื่นชมไต้หวันในด้านการพัฒนาประชาธิปไตยที่มีความหลากหลาย หลังประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่เขาให้การสนับสนุนไต้หวันมาเป็นระยะเวลายาวนาน
นายหลินจื้อเจียกล่าวว่า ช่วงปีที่ผ่านมานี้ ไต้หวันต้องเผชิญหน้ากับการคุกคามอย่างหนักจากจีน และยังเป็นประเทศที่อยู่ในแนวหน้าของการปกป้องรักษาไว้ซึ่งคุณค่าแห่ง “ประชาธิปไตย เสรีภาพ สิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม” การคงอยู่ของไต้หวันมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากคุณค่าที่ไต้หวันธำรงรักษาไว้มีส่วนอุทิศให้กับประชาคมโลก