New Southbound Policy Portal

เทศบาลนครไถจง วันที่ 24 ก.ค. 62
 

“พาซ่า บาซาร์” (Pa sa BAZAAR) รายการท่องเที่ยวชื่อดังของไทย เล็งเห็นความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภาคกลางในไต้หวัน จึงเดินทางมาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวในนครไถจง เมืองจางฮว่าและเมืองหนานโถว นับตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน ซึ่งตามตารางการเดินทาง มีกำหนดเยือนนครไถจงเป็นเวลา 3 วัน เพื่อชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรม เดินเที่ยวตลาดสินค้าวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เยี่ยมชมโรงงานเชิงท่องเที่ยว สัมผัสกับประสบการณ์ทดลองทำอาหารด้วยตนเอง (DIY) และดื่มด่ำกับบรรยากาศโรงน้ำชาในตลาดไนท์มาร์เก็ต 

 

กองการท่องเที่ยว เทศบาลนครไถจงแถลงว่า หลังเปิดให้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ – ไถจง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติที่บินตรงสู่ไถจงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงอยู่ในอันดับที่ 2 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตลอดมา จึงเห็นได้ว่า นครไถจงได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ในการเดินทางมาสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นในไต้หวัน ของนักท่องเที่ยวชาวไทยไปแล้ว

 

“พาซ่า บาซาร์” รายการท่องเที่ยวชื่อดังของไทย ได้เล็งเห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และจุดเด่นทางวัฒนธรรมประจำท้องถิ่นของสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคกลางของไต้หวัน สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวันประจำประเทศไทยจึงให้ความสนับสนุนของทีมงานผู้ผลิตรายการ ในการเดินทางด้วยการบินตรงมาสู่ท่ากาศยานนานาชาติไถจงเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การมาถ่ายทำรายการในครั้งนี้ จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยให้เดินทางมาท่องเที่ยวยังนครไถจงเพิ่มมากขึ้น  อีกทั้งเป็นการช่วยกระตุ้นโอกาสทางธรุกิจ ให้เกิดเป็นกระแสนิยมในการเดินทางมาท่องเที่ยวภาคกลางไต้หวันเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

 

ทีมผู้ผลิตรายการ “พาซ่า บาซาร์” กล่าวว่า เมื่อเทียบกับไทยที่มีสภาพอากาศร้อนเกือบตลอดทั้งปี สภาพอากาศที่ไถจงกำลังเย็นสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยวตลอดปี การเยี่ยมโรงงานเชิงท่องเที่ยวและเข้าร่วมกิจกรรม DIY ก็เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกงวัย นอกจากนี้ ยังแนะนำให้เข้าเยี่ยมชมโรงละครแห่งชาติไถจง อันถือเป็นแลนด์มาร์คของนครไถจง ที่มีความสวยงามอลังการเป็นอย่างมากด้วย

 

นางหลินเสี่ยวฉี อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า รายการ “พาซ่า บาซาร์” มักจะเจาะจงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรมหลากหลายและเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น อาทิ ตลาดผักผลไม้ ตลาดสินค้าวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ตลาดออร์แกนิคและตลาดไนท์มาร์เก็ต เป็นต้น กลุ่มเป้าหมายของผู้ชมรายการนี้ ส่วนมากจะเป็นคนวัยทำงาน ในช่วงอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป อีกทั้งมีผู้ติดตามแฟนเพจของรายการดังกล่าวกว่า 2.7 ล้านคน หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ของไทยจะสัมผัสถึงบรรยากาศการพักผ่อนในไถจง ผ่านการรับชมรายการที่ทีมผู้ผลิตเดินทางมาเยือนถ่ายทำด้วยตนเองในครั้งนี้