New Southbound Policy Portal
นายหวงจินเฉิง (ที่ 6 จากซ้าย) รองประธานคณะกรรมการการเกษตร สส. เมืองเจียอี้ และผู้คนในพื้นที่ ร่วมจัด “งานแถลงข่าวการส่งออกผลไม้ตระกูลส้ม ปี 2020” ขึ้นเมื่อวันที่ 8 ม.ค. (คกก.การเกษตร)
คกก.การเกษตร วันที่ 8 ม.ค. 63
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายหวงจินเฉิง รองประธานคณะกรรมการการเกษตร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางเยือนเมืองเจียอี้ เพื่อเป็นประธานใน “งานแถลงข่าวการส่งออกผลไม้ตระกูลส้มของไต้หวัน ปี 2020” โดยภายในงานครั้งนี้ ได้เชิญนายเฉินหมิงเหวิน สมาชิกสภานิติบัญญัติจากเมืองเจียอี้ นายวงจางเหลียง ผู้ว่าการเมืองเจียอี้ ตัวแทนสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ และตัวแทนเกษตรกร เข้าร่วมพิธีปิดตู้สินค้า เพื่อเตรียมส่งออกผลไม้ตระกูลส้มล็อตแรกไปยังฮ่องกง ในปี 2020 ณ สหกรณ์พืชผักผลไม้เกษตรเตี๋ยซี ในเมืองเจียอี้
โดยคกก.การเกษตรแถลงว่า ผลไม้ตระกูลส้มเป็น 1 ในผลไม้ส่งออกของไต้หวัน ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ แหล่งผลิตกระจายตัวอยู่ทั่วทุกพื้นที่ในไต้หวัน ยอดสะสมระหว่างเดือนมกราคม - พฤศจิกายน ปี 2019 ได้มีการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เป็นจำนวน กว่า 8,227 ตัน คิดเป็นมูลค่า 323.2 ล้านเหรียญไต้หวัน อัตราการส่งออกยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากนับรวมยอดในเดือนธันวาคม จะเห็นว่าได้ทำลายสถิติใหม่ในรอบปีที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อย สหกรณ์พืชผักผลไม้เกษตรเตี๋ยซี ได้ดำเนินการส่งออกผลไม้ตระกูลส้มไปจำหน่ายยังตลาดฮ่องกง มาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ม.ค. ได้จัดการบรรจุส้มล็อตแรกของปี ลงตู้สินค้าเตรียมส่งออกเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นการเปิดศักราช การส่งออกผลไม้ตระกูลส้มในปี 2020 อย่างเป็นทางการ
รองประธานหวงฯ กล่าวว่า ส้มเป็นผลไม้สำคัญในเทศกาลตรุษจีนของชาวจีน ซึ่งผลไม้ตระกูลส้มของไต้หวัน ได้รับความนิยมมากในตลาดประเทศจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และแคนาดา เป็นต้น เพื่อรุกขยายตลาดเกิดใหม่ และขานรับนโยบายมุ่งใต้ใหม่ด้านการเกษตร ดังนั้นนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา คกก.การเกษตรจึงได้ร่วมมือกับสหกรณ์การเกษตรในแหล่งผลิต จัดทำ “โครงการขยายช่องทางการจำหน่ายผลไม้ตระกูลส้ม สู่ประเทศเป้าหมายมุ่งใต้ใหม่” โดยจัดกิจกรรมโปรโมทขึ้น ในประเทศนโยบายมุ่งใต้ใหม่ อย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย
รองประธานหวงฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานแถลงข่าวครั้งนี้ นอกจากจะเป็นประจักษ์พยานการส่งออกผลไม้ตระกูลส้มล็อตแรก ของสหกรณ์พืชผักผลไม้เกษตรเตี๋ยซี ปี 2020 แล้ว ยังคาดหวังที่จะเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง เกษตรกรซึ่งเป็นผู้ผลิต สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ สมาคมผู้ค้าและส่งออกพืชผักผลไม้ไต้หวัน และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมส่งออก ในการร่วมกันขยายประสิทธิภาพการส่งออก เพื่อให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ได้ลิ้มลองผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพของไต้หวัน ตลอดจนกระตุ้นให้ห่วงโซ่การผลิต – จำหน่ายเกิดความราบรื่น รวมถึงสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร อย่างมั่นคงอีกด้วย