New Southbound Policy Portal
หลังการเจรจาผ่านทุกช่องทางของคณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ เครื่องบินเช่าเหมาลำซึ่งบรรทุกนักธุรกิจชาวไต้หวัน ที่พำนักอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ได้เดินทางกลับมาถึงไต้หวัน เมื่อเวลาเที่ยงคืนในช่วงค่ำของวันที่ 3 ก.พ. โดยเครื่องบินลำดังกล่าวไม่ได้จอดเทียบสะพานเทียบอากาศยาน หากแต่จอดเทียบในโรงซ่อมบำรุงอากาศยาน ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่แพทย์ได้ขึ้นไปตรวจวัดอาการของผู้โดยสารเบื้องต้นแล้ว ก็ได้ทยอยคัดแยกผู้ที่ต้องเฝ้าสังเกตการณ์อาการ ไปยังสถานที่รองรับ (ภาพจาก CNA)
กรมควบคุมโรคไต้หวัน วันที่ 4 ก.พ. 63
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาดแถลงว่า นักธุรกิจชาวไต้หวันกลุ่มแรกที่เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จำนวน 247 คน ได้เดินทางมาถึงไต้หวันเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 ก.พ. แล้ว โดยบรรดาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการคัดกรองผู้ที่เดินทางกลับมา ตามกระบวนการอย่างเข้มงวด จนแล้วเสร็จเมื่อเวลา 03:00 ของเช้าวันที่ 4 ก.พ. โดยในจำนวนดังกล่าว มีผู้ป่วยที่มีอาการต้องสงสัยว่าเข้าข่ายโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ ทั้งหมด 5 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยที่มีอาการเป็นไข้จำนวน 3 ราย ผู้ป่วยเด็กที่มีอาการปวดท้อง 1 ราย และผู้ปกครองที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดอีก 1 ราย โดยทั้ง 5 รายนี้ได้ถูกส่งตัวไปยังห้องแยกโรคความดันลบ ส่วนผู้โดยสารคนอื่นๆ ได้ถูกทยอยส่งตัวไปยังสถานที่รองรับผู้ป่วยทั้ง 3 แห่งในประเทศ เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์อาการของผู้ที่เดินทางกลับมาอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 14 วัน โดยขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 06:20 ของวันที่ 4 ก.พ. แล้ว
นายเฉินสือจง ผู้บัญชาการแห่งศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด ได้เดินทางไปตรวจการณ์ยังท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน เมื่อเวลา 01:00 ของวันที่ 4 ก.พ. พร้อมทั้งเดินทางเยือนสถานที่รองรับผู้ป่วย 1 แห่ง โดยแบ่งหน้าที่กับนายหลี่ม่งเยี่ยน เลขาธิการสภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เพื่อตรวจตราสถานการณ์การเฝ้าสังเกตการณ์อาการของบรรดานักธุรกิจไต้หวัน ที่เพิ่งเดินทางกลับมา
ศูนย์บัญชาการฯ แถลงว่า บรรดานักธุรกิจเหล่านี้ต้องได้รับการดูแล ตามมาตรการป้องกันโรคระบาดแบบคัดแยก “คนละห้อง” อย่างเข้มงวดเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งทุกคนจะต้องได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายวันละ 2 ครั้ง หากมีอาการเป็นไข้ มีอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ หรือรู้สึกผิดปกติ ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที ภายในบริเวณสถานที่รองรับ มีหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์การป้องกันโรคระบาด เพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยหรือผู้ที่อยู่ในระหว่างการเฝ้าสังเกตการณ์และเจ้าหน้าที่การแพทย์ เพื่อใช้เป็นเกราะป้องกันขั้นพื้นฐาน โดยผู้ที่ยังอยู่ระหว่างการเฝ้าสังเกตการณ์อาการ จะถูกกักกันบริเวณไม่ให้ออกนอกสถานที่ จำเป็นต้องอยู่แต่ในห้องแยกโรคความดันลบเท่านั้น เพราะฉะนั้นจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อประชาชนผู้พักอาศัยในละแวกนั้นๆ อย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนวางใจได้