New Southbound Policy Portal

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 5 มี.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน แห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ Mr. James Moriarty ประธานสถาบันอเมริกาในไต้หวัน (AIT) พร้อมแสดงความขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศพันธมิตร และสนับสนุนให้ไต้หวันมีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนร่วมเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน ปธน.ไช่ฯ ยังหวังว่า ไต้หวันต้องการที่จะร่วมลงนามความร่วมมือการค้าสองฝ่าย (BTA) กับสหรัฐฯ เพื่อร่วมสร้างสันติภาพและเสถียรภาพให้แก่ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันมีความยินดีและมีศักยภาพที่จะประสานความร่วมมือกับประชาคมโลก ในการร่วมสร้างผลประโยชน์ด้านการป้องกันการระบาดของโรคโควิด – 19 อย่างเต็มกำลัง

 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า หลายเดือนที่ผ่านมานี้ โรคโควิด – 19 ได้แพร่ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก ถือเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับทุกประเทศทั่วโลก ปธน.ไช่ฯ จึงได้เน้นย้ำอีกครั้งว่า ไต้หวันมีความยินดีและมีศักยภาพที่จะประสานความร่วมมือกับประชาคมโลก ในการร่วมสร้างผลประโยชน์ด้านการป้องกันการระบาดของโรคโควิด – 19 อย่างเต็มกำลัง

 

นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้ใช้โอกาสนี้กล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ และหน่วยงานบริหารของสหรัฐฯ ที่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในเวทีนานาชาติที่สำคัญๆ โดยให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้มีมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมาย Taipei Act ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ทั้งหมด 415 เสียง โดยไม่มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยเลย ปธน.ไช่ฯ จึงขอแสดงความขอบคุณมายังสมาชิกสภาฯ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือไต้หวันในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศพันธมิตร และสนับสนุนให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ ตลอดจนร่วมเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ อย่างเป็นรูปธรรม

 

ทั้งนี้ ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวัน – สหรัฐฯ นอกจากจะคงความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนระหว่างกันแล้ว ยังเป็นพันธมิตรระดับสากลที่สำคัญของไต้หวันในด้านความมั่นคงอีกด้วย ปธน.ไช่ฯ ขอขอบคุณรัฐบาลทรัมป์ที่ได้อนุมัติการขายยุทโธปกรณ์ให้กับไต้หวันอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ ไต้หวันได้วางแผนยกระดับแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศโดยพึ่งพาตนเอง เพื่อเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ในการร่วมสร้างประโยชน์ให้กับภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกต่อไป

 

โดย Mr. James ได้กล่าวขณะปราศรัยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ นอกจากจะเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์การค้าระหว่างกันมาเป็นเวลานานแล้ว ความสัมพันธ์ทางความร่วมมือแบบนี้ ยังขยายครอบคลุมไปในด้านต่างๆ รวมไปถึงด้านเทคโนโลยีและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เป็นต้น

 

นอกจากนี้ Mr. James ยังชี้ว่า สำหรับการเผชิญหน้าและการแก้ไขปัญหาของโรคโควิด – 19 ถือว่ามาตรการรับมือของไต้หวันมีความรัดกุมและโปร่งใส อีกทั้งยังตั้งอยู่บนพื้นฐานตามข้อเท็จจริง ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งด้านประชาธิปไตยของไต้หวัน ขณะเดียวกัน ก็เป็นการทำให้ทั่วโลกเห็นว่า ไต้หวันสามารถสร้างคุณประโยชน์ให้กับประชาคมโลกได้อย่างมากมาย หากไต้หวันยินดีแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และข้อคิดจากการลงมือปฏิบัติจริง เชื่อว่าทั่วโลกจะได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างแน่นอน