New Southbound Policy Portal
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายเฉินสือจง ผู้บัญชาการ CECC กล่าวว่า หากในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ประชาชนที่เดินทางไปยังสถานที่แออัดที่มีผู้คนพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก ควรแยกตัวเพื่อสังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน และหลีกเลี่ยงการไปยังที่สาธารณะ (ภาพจาก CNA)
CECC วันที่ 6 เม.ย. 63
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) แถลงว่า ณ วันที่ 5 เม.ย. ในไต้หวันมีผู้ที่มีอาการเข้าข่ายสงสัยที่ได้รับรายงานเพิ่มขึ้น 920 คน ตราบจนปัจจุบันมียอดสะสมรวม 37,219 คน (จำนวนนี้รวมผู้ที่ได้รับการยืนยันภายหลังว่า ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทั้งสิ้น 33,128 คน) โดยกรณีผู้ป่วยยืนยันมีจำนวน 373 คน ซึ่งจากจำนวนทั้งหมดนี้ มี 321 รายเป็นผู้ป่วยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ส่วนอีก 52 รายเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ป่วยยืนยันทั้งหมด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย มี 57 รายที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนผู้ป่วยที่เหลือยังอยู่ในระหว่างการกักตัวที่โรงพยาบาล สำหรับกรณีชาวไต้หวันจำนวน 367 คนที่เดินทางกลับมาจากมณฑลหูเป่ย ด้วยเครื่องบินโดยสารแบบเช่าเหมาลำ ระหว่างวันที่ 29 – 30 มี.ค. มีผู้เข้าข่ายต้องสงสัย 3 คน ที่ได้รับการตรวจคัดกรองเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งผลตรวจยืนยันว่าเป็นลบ และได้รับอนุญาตให้กลับไปกักตัวต่อที่บ้าน ส่วนผู้ป่วยที่เหลือมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นเป็นลำดับ แต่ยังอยู่ในระหว่างการกักตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป
CECC ระบุว่า ทั่วโลกมียอดผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 1,231,490 ราย กระจายตัวอยู่ใน 182 ประเทศ / เขตพื้นที่ ประเทศที่มียอดผู้ป่วยมากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 331,234 ราย สเปน 130,759 ราย อิตาลี 128,948 ราย เยอรมนี 91,714 ราย และจีน 81,708 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตทั่วโลกรวม 68,630 คน เพิ่มขึ้น 4,784 คน ซึ่งประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตมากที่สุด ได้แก่ อิตาลี 15,887 คน สเปน 12,418 คน สหรัฐฯ 9,458 คน ฝรั่งเศส 8,078 คน และอังกฤษ 4,934 คน
ทั้งนี้ CECC ย้ำเตือนว่า ประชาชนควรรักษาสุขอนามัยมือและรักษามารยาทในการไอหรือจาม อย่างถูกสุขลักษณะ สำหรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หากมีอาการเป็นไข้ ไอ หรืออาการไม่สบายอื่นๆ ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ป้องกันโรคระบาดในท่าอากาศยานหรือท่าเรือ พร้อมให้ความร่วมมือในมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด หลังจากที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว ควรกักตัวอยู่บ้านเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์อาการเป็นเวลา 14 วัน หากมีอาการเข้าข่ายต้องสงสัย ต้องรีบติดต่อกองสาธารณสุขหรือศูนย์ดูแลการกักตัวในบ้านประจำเมืองต่างๆ และไปพบแพทย์ตามคำแนะนำ ห้ามใช้บริการระบบขนส่งมวลชนโดยเด็ดขาด ในขณะที่พบแพทย์ ต้องแจ้งประวัติการเดินทาง (Travel) อาชีพ (Occupation) ประวัติการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน (Contact) หรือประวัติการรวมกลุ่มกับกลุ่มชน (Cluster) หรือที่เรียกโดยรวมว่า TOCC กับแพทย์ผู้รักษาอย่างละเอียด
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 2 – 5 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นวันหยุดยาวเนื่องในเทศกาลเช็งเม้งของไต้หวัน นายเฉินสือจง ผู้บัญชาการ CECC กล่าวว่า เมื่อช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ผู้ที่เดินทางไปยังสถานที่แออัดที่มีผู้คนพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก ควรแยกตัวเพื่อสังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังที่สาธารณะ ทางที่ดีควรทำงานที่บ้าน (Work from Home) เป็นระยะเวลาหนึ่ง หากมีความจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ต้องสวมหน้ากากอนามัย สำหรับประชาชนโดยทั่วไปควรรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด ผู้ที่มีอาการต้องสงสัยห้ามไปโรงเรียนและสถานที่ทำงานโดยเด็ดขาด