New Southbound Policy Portal
เมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายเฉินสือจง ผู้บัญชาการ CECC ชี้แจงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด – 19 ในไต้หวัน (ภาพจาก CNA)
CECC วันที่ 13 เม.ย. 63
เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) แถลงว่า ณ วันที่ 12 เม.ย. ในไต้หวันมีผู้ที่มีอาการเข้าข่ายสงสัยที่ได้รับรายงานเพิ่มขึ้น 668 คน ตราบจนปัจจุบันมียอดสะสมรวม 47,215 คน (จำนวนนี้รวมผู้ที่ได้รับการยืนยันภายหลังว่า ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทั้งสิ้น 42,707 คน) โดยผู้ป่วยยืนยันมีจำนวน 393 คน ซึ่งจากจำนวนทั้งหมดนี้ มี 338 รายเป็นผู้ป่วยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ส่วนอีก 55 รายเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ป่วยยืนยันทั้งหมด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย มี 114 รายที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนผู้ป่วยที่เหลือยังอยู่ในระหว่างการกักตัวที่โรงพยาบาล
CECC ระบุว่า ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด – 19 ที่ได้รับรายงานว่าเพิ่มขึ้น 5 รายในวันที่ 12 เม.ย. ล้วนเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เป็นหญิง 3 ราย และชาย 2 ราย โดยมีอายุระหว่าง 50 – 60 ปีเศษ ในจำนวนนี้ ผู้ป่วยรายที่ 389 – 392 ต่างเป็นผู้โดยสารบนเรือสำราญคอรัล พรินเซส (Coral Princess) ส่วนผู้ป่วยรายที่ 393 เป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยรายที่ 384
ทั้งนี้ CECC เผยว่า ผู้ป่วยรายที่ 389 - 392 และญาติมิตรอีก 3 คน รวม 7 คน ได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ และได้โดยสารเรือสำราญคอรัล พรินเซสที่ชิลี ในวันที่ 5 มีนาคม โดยเรือสำราญดังกล่าวมีกำหนดการสิ้นสุดโปรแกรมการเดินทางที่อาร์เจนตินาในวันที่ 19 มีนาคม แต่เนื่องจากอาร์เจนตินาและหลายประเทศโดยรอบต่างใช้มาตรการปิดประเทศ (Lock Down) ตามแนวชายแดน ส่งผลให้เรือสำราญไม่สามารถเทียบท่าได้ตามกำหนดเวลาเดิม ทำได้เพียงลอยคว้างอยู่กลางทะเลเป็นเวลาหลายวัน จนเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 เมษายน ได้เข้าเทียบท่าในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งในขณะนั้น บนเรือมีผู้โดยสาร 12 คน และเจ้าหน้าที่ลูกเรือ 10 คนได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด – 19 แล้ว ในจำนวนนี้ มีผู้โดยสารที่เสียชีวิตแล้ว 3 คน
CECC ได้รับรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ว่า บนเรือสำราญมีผู้โดยสารที่เป็นชาวไต้หวันจำนวน 7 ราย ได้โดยสารเครื่องบินโดยสารแบบเช่าเหมาลำที่บริษัททัวร์เรือสำราญได้จัดเตรียมการไว้ให้ ในการเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อต่อเครื่องกลับมายังไต้หวัน อนึ่ง เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัย CECC ได้ติดต่อกรมการบินพลเรือน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมควบคุมโรค และบริษัทสายการบิน ให้จัดเตรียมมาตรการตรวจคัดกรองไว้สำหรับผู้โดยสารทั้ง 7 คนข้างต้น ซึ่งคลอบคลุมถึงการออกมาตรการป้องกันตนเองเบื้องต้น ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทางบนเที่ยวบิน การเว้นระยะห่างของตำแหน่งที่นั่งบนเครื่องบิน พร้อมทั้งต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างละเอียด ขณะที่เดินทางถึงไต้หวัน ไม่ว่าจะปรากฎอาการหรือไม่ก็ตาม ตลอดจนส่งไปกักตัวยังสถานกักกันโรค เพื่อเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด เป็นเวลา 14 วัน
นอกจากนี้ ทาง CECC ยังได้ระบุเพิ่มเติมว่า สำหรับชาวไต้หวันจำนวน 153 คนที่เดินทางกลับมาจากมณฑลหูเป่ย ด้วยเครื่องบินโดยสารแบบเช่าเหมาลำ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ได้รับอนุญาตให้กลับไปสังเกตอาการตัวเองที่บ้านอีก 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. เป็นต้นไป ส่วนชาวไต้หวันที่เดินทางกลับมาในวันที่ 30 มี.ค. ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดในสถานกักกันโรค คาดว่าจะได้รับอนุญาตให้กลับไปสังเกตอาการตัวเองที่บ้านได้ในวันที่ 14 เม.ย. นี้