New Southbound Policy Portal

ไต้หวัน สหรัฐฯ และญี่ปุ่นร่วมจัด “การประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยการปราบปรามข่าวปลอมในประเด็นที่เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19” ภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF

นายสวีซือเจี่ยน รมช. ต่างประเทศ กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุม (ภาพจาก MOFA)

นายสวีซือเจี่ยน รมช. ต่างประเทศ กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุม (ภาพจาก MOFA)

MOFA วันที่ 30 เม.ย. 63

 

เมื่อวันที่ 30เม.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า เพื่อรับมือกับการแพร่สะพัดของข่าวปลอมในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) บนอินเทอร์เน็ตและสื่อโซเชียลต่างๆ พร้อมเสริมสร้างศักยภาพในการกลั่นกรองข้อมูลข่าวสารตามสื่อที่ถูกต้องตามความเป็นจริง ให้กับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกได้ทราบโดยทั่วกัน กต.ไต้หวัน สถาบันอเมริกาในไต้หวัน สำนักงานไทเป (AIT/T) และสมาคมแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่น - ไต้หวัน จึงได้ร่วมกันจัด “การประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยการปราบปรามข่าวปลอม ในประเด็นที่เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19” ภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF (Global Cooperation and Training Framework) ผ่านช่องทางออนไลน์ขึ้น เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา


 

โดยกต.ไต้หวันระบุว่า ในการประชุมครั้งนี้ มีตัวแทนระดับสูงของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหลายราย ได้แก่ นายสวีซือเจียน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน Mr. Robert Destro ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ด้านประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และแรงงาน และ Mr. Izumi Hiroyasu ตัวแทนสมาคมแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่น – ไต้หวัน ซึ่งผู้แทนเหล่านี้ได้ร่วมกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุม โดยมีถังฟ่ง รัฐมนตรีประจำสภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เป็นผู้ดำเนินรายการในการประชุมรอบแรก


 

รมช.สวีฯ กล่าวว่า ข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เปรียบเสมือน “ไฟป่าดิจิทัล” (digital wildfire)  ที่ลุกลามไปอย่างรวดเร็วผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวไม่น้อยไปกว่าโรคระบาดเลยทีเดียว ประกอบกับการที่ไต้หวันเป็นประเทศแนวหน้าที่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามทั้งโรคโควิด – 19 และข่าวปลอม นับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เป็นต้นมา รัฐบาลไต้หวัน’ได้จับตาสถานการณ์การเผยแพร่ข่าวสารในสังคมอย่างใกล้ชิด และได้สังเกตเห็นว่าข่าวปลอมทุกรูปแบบได้แพร่สะพัดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด อีกทั้งยังมีเจตนาทำลายระบอบประชาธิปไตย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า จีนใช้การประชาสัมพันธ์ตัวเองในวงกว้าง เพื่ออาศัยโอกาสนี้ในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของตัวเองในสายตาของประเทศอื่นๆ


 

ทั้งนี้ รมช.สวีฯ เน้นย้ำว่า รัฐบาลไต้หวันได้ประยุกต์ใช้มาตรการป้องกันโรคระบาด “รูปแบบไต้หวัน” ซึ่งพิสูจน์ให้ทั่วโลกประจักษ์เห็นว่า เมื่อเปรียบเทียบกับระบอบเผด็จการแล้ว ระบอบประชาธิปไตยกลับสามารถรับมือกับวิกฤตโรคระบาดในครั้งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ประกอบกับการเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใส  รับฟังความคิดเห็น และแถลงชี้แจงข้อซักถามอย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การป้องกันโรคระบาดของไต้หวันประสบความสำเร็จ

 

 

การประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ นอกจากจะมีตัวแทนจากไต้หวัน สหรัฐฯ และญี่ปุ่นเข้าร่วมแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 80 คน จาก 6 ประเทศในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ตัวแทนจาก NGO และนักวิชาการ เข้าร่วมรับฟังผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย โดยมีจุดประสงค์ในการร่วมกันต่อกรกับประเทศมหาอำนาจที่หวังจะใช้ข่าวปลอมในประเด็นของโรคระบาด ทำลายเสถียรภาพของสังคมในระบอบประชาธิปไตย ผ่านการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ตลอดจนธำรงไว้ซึ่งเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน อันเป็นค่านิยมสากลที่สำคัญ