New Southbound Policy Portal

ปธน.ไช่ฯ เข้าร่วมพิธีเปิดใช้งานเครือข่าย 5G ของบริษัทจงหัวเทเลคอม

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 30 มิ.ย. 63

 

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางเข้าไปร่วมพิธีเปิดใช้งานเครือข่าย 5G ของบริษัทจงหัวเทเลคอม พร้อมกล่าวว่า หลังจากที่เครือข่าย 5G เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว รัฐบาลจะเร่งวางโครงสร้างพื้นฐาน 5G อย่างด่วนที่สุด โดยเตรียมจะลงทุนด้วยงบประมาณ 20,000 ล้านเหรียญไต้หวันภายในเวลา 4 ปี เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดต่อไป พร้อมนี้ จะทำการผ่อนคลายกฎระเบียบ ปรับลดอุปสรรคทางการเงินและทางเทคนิคในการเข้าสู่ตลาด เพื่อสร้างความคึกคักให้กับตลาดและสร้างระบบนิเวศที่ดีให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี 5G โดยปธน.ไช่ฯ ยังคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะผลักดันให้ไต้หวันก้าวเข้าสู่เวทีนานาชาติ ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจโลกในยุค 5G แห่งอนาคต เพื่อทำให้ไต้หวันมีบทบาทสำคัญในระดับนานาชาติ


 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนได้กล่าวสุนทรพจน์โดยเน้นย้ำว่า เราต้องนำเอาข้อได้เปรียบที่มีอยู่ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอุตสาหกรรมสารสนเทศ มาใช้ในการเดินหน้าเพื่อผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างเต็มที่


 

โดยปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า การเปิดใช้งานเครือข่าย 5G ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกที่มีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายข้างต้นอย่างเป็นรูปธรรม และถือเป็นหลักไมล์สำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ไต้หวันได้ก้าวสู่ยุค 5G ในเชิงพาณิชย์แล้ว “นับแต่นี้เป็นต้นไป ไต้หวันได้ก้าวเข้าสู่ยุค 5G พร้อมกับสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้แล้ว”


 

ปธน.ไช่ฯ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากก้าวเข้าสู่ยุค 5G แล้ว การดาวน์โหลดภาพยนตร์ที่มีความยาว 2 ชั่วโมง จะใช้เวลาเพียง 3 วินาทีเท่านั้น “นี่คือความก้าวหน้าของเทคโนโลยี”


 

ปธน.ไช่ฯ ยังชี้ว่า คุณสมบัติ 3 ประการของ 5G ประกอบด้วย “อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง” “เวลาหน่วงที่ต่ำลง” และ “สามารถรองรับการเชื่อมต่อจำนวนมาก” นอกจากจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการด้านการติดต่อสื่อสาร การเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ต และการส่งภาพวิดีโอ ได้อย่างสะดวกทุกที่ทุกเวลาแล้ว ยังสามารถสร้างโอกาสธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเสริมสร้างฟังก์ชันการควบคุมบนระบบคลาวด์ ซึ่งนับเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการนำไปประยุกต์ใช้กับรถยนต์ไร้คนขับ อากาศยานไร้คนขับ การจราจรอัจฉริยะ การแพทย์อัจฉริยะ และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ 


 

โดยปธน.ไช่ฯ ย้ำว่า การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G นอกจากจะสัมพันธ์กับการแข่งขันทางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแล้ว ยังสัมพันธ์กับระบบบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของข้อมูลสารสนเทศและยุทธศาสตร์ของประเทศอีกด้วย หรือแม้กระทั่งมีความสัมพันธ์กับการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานด้วยเช่นกัน


 

ทั้งนี้ ปธน.ไช่ฯ แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า ทีมชาติ 5G ของไต้หวัน มีศักยภาพที่จะแสดงพลังในแบบดั้งเดิมกับการผลิตอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ผนวกกับการประยุกต์ใช้นวัตกรรมของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อช่วยให้เกิดการบริการรูปแบบใหม่และรูปแบบการค้า ที่มีพัฒนาการอันรุดหน้ายิ่งกว่าเดิม