New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 7 ก.ค. 63
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 7 ก.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “งานเลี้ยงน้ำชาเพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการจัดตั้งสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA)” พร้อมกล่าวชื่นชมว่า TAITRA นอกจากจะเป็นกิ่งก้านสาขาด้านเศรษฐกิจและการค้าของไต้หวันแล้ว ยังการเป็นกิ่งก้านสาขาด้านการทูตอีกด้วย โดยเฉพาะการเป็นพลังสนับสนุนที่สำคัญที่ผลักดันให้ผู้ประกอบการไต้หวันหรือธุรกิจไต้หวันก้าวสู่เวทีนานาชาติ ปธน.ไช่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า TAITRA จะนำประสบการณ์อันล้ำค่าที่ได้จากการบุกเบิกตลาดนานาชาติกว่า 50 ปี ผนวกเข้ากับการยึดมั่นในแนวทางการผลักดันนวัตกรรมรูปแบบใหม่ ให้ความช่วยเหลือนักธุรกิจไต้หวันในการแสวงหาโอกาสธุรกิจในตลาดนานาชาติต่อไป อีกทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เร่งพัฒนาการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล
ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวต่างๆ ที่ TAITRA และผู้ประกอบการไต้หวันได้ร่วมกันบุกเบิกตลาดนานาชาติ ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์แห่งการสร้างความมหัศจรรย์ อันนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไต้หวัน
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า ตราบจนปัจจุบัน TAITRA ได้จัดตั้ง “ศูนย์ส่งเสริมการค้าไต้หวัน” (Taiwan Trade Center) กว่า 60 แห่งในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในการวางรากฐานธุรกิจในต่างประเทศอย่างมั่นคง จึงอาจกล่าวได้ว่าTAITRA มีบทบาทที่เปรียบเสมือนเป็น “เซลล์แมนระดับชาติ” ที่มีหน้าที่ผลักดันสินค้าของไต้หวันออกจำหน่ายสู่ตลาดนานาชาติ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันเนื่องด้วยการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ส่งผลให้การบริการของ TAITRA ยิ่งมีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากคณะผู้แทนการค้า การจัดนิทรรศการ และการสำรวจตลาดแล้ว ก็ยังมีการขยายขอบเขตการให้บริการเพิ่มเติม อาทิ การฝึกอบรมบุคลากร การผลักดันแบรนด์สินค้า การตลาดรูปแบบดิจิทัล และการให้คำปรึกษาด้านการตลาดนานาชาติ เป็นต้น
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า หลายปีมานี้ พวกเราต่างประจักษ์ว่า ภายใต้การนำของนายหวงจื้อฟาง ประธาน TAITRA องค์กรนี้ได้ถูกยกระดับจากการเป็น “เซลล์แมนระดับชาติ” กลายเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านการบูรณาการรูปแบบอัจฉริยะ” (smart integrator) ดังจะเห็นได้จากการจัด “มหกรรม Taiwan Expo” ขึ้นในประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ โดยได้บูรณาการอุตสาหกรรมข้ามแวดวง รวมเข้าไว้ในงานมหกรรม นำผู้ประกอบการเดินทางไปคว้าโอกาสธุรกิจใหม่ ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคลากรอย่างใกล้ชิด ถือเป็นตัวอย่างที่บังเกิดผลสัมฤทธิ์ตามความคาดหวัง
ปธน.ไช่ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรับมือกับการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานของโลก และเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ให้เกิดความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เมื่อปีที่แล้ว TAITRA ได้จัดตั้ง “ศูนย์แลกเปลี่ยนทางการค้าเชิงพาณิชย์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ” ซึ่งมีบทบาทเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงการค้าและการลงทุนระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ โดยในอนาคต แพลตฟอร์มดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้ความช่วยเหลือนักธุรกิจไต้หวันในการวางฐานการตลาดในสหรัฐฯ สำแดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันแบบเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน จากตัวอย่างข้างต้นนี้ ต่างเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา TAITRA ที่ก้าวทันกระแสโลกและไม่หยุดยั้งในการเร่งสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ถือเป็นพลังสนับสนุนที่สำคัญในการผลักดันให้ผู้ประกอบการไต้หวันและธุรกิจไต้หวัน ประสบความสำเร็จในการก้าวสู่เวทีนานาชาติ
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมานี้ เพื่อรับมือกับสงครามการค้าจีน – สหรัฐฯ และผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ประกอบกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เกิดความผกผัน การแสวงหาแนวทางในการเอาตัวรอด เพื่อนำไปสู่การค้นพบโอกาสธุรกิจใหม่ นับเป็นประเด็นสำคัญที่ไต้หวันให้ความสนใจเป็นอย่างมากในขณะนี้