New Southbound Policy Portal

สาระสำคัญของเนื้อข่าว :

♦ รายงานสถิติใบสั่งซื้อจากต่างประเทศประจำเดือนสิงหาคมปีนี้ มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 13.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการส่งออกรวม 45,490 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ทั่วโลกมีความต้องการสินค้าเทคโนโลยีระดับสูงในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น
 

♦ MOEA ระบุว่าแนวโน้มในเชิงบวกนี้เกิดจากโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่สืบเนื่องมาจากการทำงานระยะไกลและการส่งเสริมการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
-------------------------------------------
MOEA วันที่ 21 ก.ย. 63

 

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. กระทรวงเศรษฐการ (Ministry of Economic Affairs, MOEA) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า รายงานสถิติใบสั่งซื้อจากต่างประเทศประจำเดือนสิงหาคมปีนี้ มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 13.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการส่งออกรวม 45,490 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ทั่วโลกมีความต้องการสินค้าเทคโนโลยีระดับสูงในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น

 

ในประเภทสินค้าส่งออกที่สำคัญของไต้หวัน เฉพาะในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สินค้าด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.4 ด้วยมูลค่าการค้า 13,230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทาง MOEA แถลงว่า ผลสัมฤทธิ์ดังกล่าวเกิดจากการที่ทั่วโลกมีความต้องการสินค้าด้านโทรคมนาคมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19)

 

ในส่วนของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ก็มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก อยู่ที่ร้อยละ 28.2 มูลค่า การส่งออกอยู่ที่ 14,020 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย MOEA ระบุว่าแนวโน้มในเชิงบวกนี้เกิดจากโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่สืบเนื่องมาจากการทำงานระยะไกลและการส่งเสริมการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โอกาสเหล่านี้จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการไต้หวันทยอยได้รับใบสั่งซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โมดูลหน่วยความจำ รวมไปถึงสินค้าและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น

 

นอกจากนี้ สินค้าประเภทเครื่องจักรกลและออปโตอิเล็กทรอนิกสก็บังเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีไม่แพ้กัน โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 และ5.4 ตามลำดับ ซึ่งการเติบโตของมูลค่าการส่งออกเหล่านี้มีส่วนช่วยชดเชยอัตราการหดตัวของสินค้าประเภทโลหะไร้สกุล ปิโตรเคมี รวมถึงสินค้ากลุ่มพลาสติกและยางพารา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหดตัวลงร้อยละ 2 , 20.1 และ 3 ตามลำดับ

 

สำหรับแหล่งที่มาของใบสั่งซื้อยังคงเป็นสหรัฐอเมริกาที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 19.5 ด้วยมูลค่า 13,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือจีนและฮ่องกงที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 ด้วยมูลค่า 12,880 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยุโรปมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.2 ด้วยมูลค่า 8,120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 ด้วยมูลค่า 4,130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

MOEA แถลงถึงความคาดหวังในอนาคตว่า ช่วงปลายปีต่อจากนี้จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมนานาประเภท สินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีกำหนดทยอยป้อนเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทันสมัยเกิดการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 นำมาซึ่งความต้องการทางเศรษฐกิจ Stay-At-Home Economy ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้ใบสั่งซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และ ICT ของไต้หวันขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทั่วโลกยังไม่ทุเลาลง ประกอบกับความขัดแย้งระหว่างจีน – สหรัฐฯ ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการได้รับใบสั่งซื้อของไต้หวันในภายภาคหน้า ซึ่งทางกระทรวงฯ จะจับตาความคืบหน้าของสถานการณ์ในอนาคตอย่างใกล้ชิดต่อไป