New Southbound Policy Portal

สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ ไต้หวันมีข้อได้เปรียบทางด้านเทคโนโลยี ประสบการณ์ด้านการป้องกันโรคระบาด และมีความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน ซึ่งนอกจากจะสามารถปกป้องสุขภาพของมวลมนุษยชาติในประเทศได้แล้ว ยังมีกำลังเหลือพอที่จะยื่นมือให้ความช่วยเหลือแก่ประชาคมโลก

♦ ความสำเร็จในภารกิจการป้องกันโรคระบาดในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันโรคระบาดในแต่ละสาขา ได้ร่วมอุทิศตนสร้างคุณประโยชน์ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
-------------------------------------------

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 27 ก.ย. 63

 

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “พิธีเปิดฉายสารคดีการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) และพิธีมอบเหรียญเกียรติยศให้กับผู้สร้างคุณประโยชน์ในด้านการสกัดกั้นโรคโควิด-19” พร้อมกล่าวปราศรัยว่า ไต้หวันมีข้อได้เปรียบทางด้านเทคโนโลยี ประสบการณ์ด้านการป้องกันโรคระบาด และมีความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน ซึ่งนอกจากจะสามารถปกป้องสุขภาพของมวลมนุษยชาติในประเทศได้แล้ว ยังมีกำลังเหลือพอที่จะยื่นมือให้ความช่วยเหลือแก่ประชาคมโลก อนึ่ง ปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนร่วมในภารกิจการป้องกันโรคระบาด พร้อมกล่าวให้การยอมรับว่า ไต้หวันสามารถก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในโลกได้ เป็นผลอันเนื่องมาจากการอุทิศตนร่วมกันของทุกภาคส่วน

 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ภายใต้บริบทที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด – 19 ผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน กลับได้รับความสนใจและการยอมรับอย่างแพร่หลายจากทั่วโลก โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อนายหวังจื่ออี ผู้กำกับและทีมงานสร้างสรรค์สารคดี ที่ได้บันทึกภาพทุกช่วงเหตุการณ์ในระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในไต้หวัน ซึ่งเป็นภาพบันทึกที่ล้ำค่าสำหรับประชาชนไต้หวันทุกคน

 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จในภารกิจการป้องกันโรคระบาดในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันโรคระบาดในแต่ละสาขา ได้ร่วมอุทิศตนสร้างคุณประโยชน์ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยปธน.ไช่ฯ ได้ใช้โอกาสนี้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของภาคประชาชน แสดงความขอบคุณและความนับถือต่อผู้ที่ได้รับเหรียญเกียรติยศและผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันโรคระบาดทุกท่าน

 

ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า ในระหว่างการป้องกันโรคระบาด นับตั้งแต่ภาครัฐจนถึงภาคประชาชน ผู้ปฏิบัติภารกิจที่อยู่แนวหน้าไปจนถึงผู้ให้การสนับสนุนที่อยู่เบื้องหลัง ตั้งแต่วัสดุพื้นฐานในการผลิตหน้ากากอนามัยไปจนถึงขั้นตอนการผลิต หรือผู้ผลิตในอุตสาหกรรมขั้นต้นไปจนถึงผู้ผลิตในอุตสาหกรรมขั้นปลาย กล่าวได้ว่า เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมต่างทุ่มเทต่อภารกิจหน้าที่กันอย่างเต็มกำลัง จึงทำให้ “พวกเราประสบความสำเร็จในภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้นี้” ประกอบกับภาคประชาชนได้ให้ความร่วมมือกับมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างกระตือรือร้น อีกทั้งยังสำแดงความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมต่างๆ เพื่อช่วยยกระดับประสิทธิภาพในมาตรการป้องกันโรคระบาดร่วมกับรัฐบาลอีกด้วย

 

ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันมีข้อได้เปรียบทางด้านเทคโนโลยี ประสบการณ์ด้านการป้องกันโรคระบาด และมีความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน เมื่อผนวกสิ่งเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน จึงก่อให้เกิดเป็นผลสัมฤทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งนอกจากจะสามารถปกป้องสุขภาพของมวลมนุษยชาติในประเทศได้แล้ว ยังมีกำลังเหลือพอที่จะยื่นมือให้ความช่วยเหลือแก่ประชาคมโลก สร้างคุณประโยชน์ให้กับทั่วโลก โดย “ผลสัมฤทธิ์เหล่านี้นับเป็นความภาคภูมิใจร่วมกันของประชาชนชาวไต้หวัน”