New Southbound Policy Portal
สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และองค์การนอกภาครัฐที่ส่งเสริมสิทธิสตรี ได้ร่วมจัดการประชุมรูปแบบออนไลน์ภายใต้หัวข้อ “เฟมินิสต์ร่วมวางแผนแม่บทหลังยุคโควิด-19”
♦ Ms. Kelley กล่าวชื่นชมรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) โดยระบุว่า ไต้หวันสามารถรับมือกับโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไต้หวันก้าวขึ้นสู่ต้นแบบแห่งการสกัดกั้นโรคโควิด – 19
-------------------------------------------
MOFA วันที่ 1 ต.ค. 63
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 ก.ย. ตามเวลาในกรุงไทเป กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และองค์การนอกภาครัฐที่ส่งเสริมสิทธิสตรี ได้ร่วมจัดการประชุมรูปแบบออนไลน์ภายใต้หัวข้อ “เฟมินิสต์ร่วมวางแผนแม่บทหลังยุคโควิด-19” ซึ่งจึดขึ้นก่อนหน้าวันกำหนดจัดงานฉลอง “วาระครบรอบ 25 ปีของการจัดการประชุมสมัชชาสตรีโลก ครั้งที่ 4 (the 25th anniversary of the Fourth World Conference on Women)” ที่สหประชาชาติ (UN) ได้จัดขึ้นในวันที่ 1 ต.ค. โดยการประชุมในครั้งนี้ได้เชื่อมโยงผู้เข้าร่วมการประชุมใน 3 พื้นที่ผ่านระบบออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย กรุงไทเป กรุงวอชิงตัน ดีซี และนครนิวยอร์ก โดยนางเซียวเหม่ยฉิน ผู้แทนไต้หวันประจำสหรัฐฯ และ Ms. Kelley Currie เอกอัครราชทูตผู้แทนพิเศษของกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ดูแลกิจการที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิสตรีทั่วโลก ต่างเข้าร่วมพูดคุย พร้อมทั้งแบ่งปันผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดภายใต้การนำของผู้นำสตรี ตลอดจนให้การยอมรับต่อผลสัมฤทธิ์ด้านการผลักดันสิทธิสตรีและความเสมอภาคทางเพศของไต้หวัน ว่ามีส่วนช่วยในการบรรลุภารกิจการป้องกันโรคระบาดในครั้งนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Ms. Kelley กล่าวชื่นชมรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) โดยระบุว่า ไต้หวันสามารถรับมือกับโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไต้หวันก้าวขึ้นสู่ต้นแบบแห่งการสกัดกั้นโรคโควิด – 19 นอกจากนี้ Ms. Kelley ยังยินดีที่จะเห็นไต้หวันเข้าร่วม “แผนปฏิบัติการว่าด้วยการส่งเสริมสิทธิสตรี สันติภาพ และความมั่นคง” (U.S. Strategy on women, peace, and security, WPS) และ “แผนการพัฒนาและส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองให้แก่สตรีทั่วโลก” (Women's Global Development and Prosperity, W-GDP) เพื่อให้ความช่วยเหลือในการสร้างโอกาสการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังยุคโควิด – 19 แก่ผู้ประกอบการสตรีในประเทศที่กำลังพัฒนา
ผู้แทนเซียวฯ ขอแสดงความขอบคุณองค์การ NGOs ที่ร่วมผลักดันให้ไต้หวันก้าวสู่สังคมที่เปี่ยมด้วยความเสมอภาคมากยิ่งขึ้น พร้อมเรียกร้องให้สหประชาชาติควรที่จะยอมรับให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในการประชุม อีกทั้งยังได้ชี้แจงว่า ช่วงเริ่มแรกของสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด – 19 ไต้หวันได้เร่งจัดตั้ง “ทีมชาติไต้หวัน” เพื่อดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคระบาดล่วงหน้าอย่างกระตือรือร้น อีกทั้งยังได้วางแผนกลยุทธ์การฟื้นฟู ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม โดยในระหว่างการกำหนดนโยบายข้างต้น ได้จัดให้สตรีเข้ามีส่วนร่วมด้วย ผู้แทนเซียวฯ กล่าวเน้นย้ำว่า ไต้หวันยินดีที่จะประสานความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในเชิงลึก เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจของสตรีในประเทศที่กำลังพัฒนาต่อไป
การประชุมครั้งนี้มี Ms.Denise Scotto รองประธาน “สมาพันธ์นักกฎหมายหญิงนานาชาติ” (International Federation of Women in Legal Careers, FIFCJ) และตัวแทน FIFCJ ประจำสหประชาชาติ ดำเนินหน้าที่เป็นพิธีกร โดยมีนายหลี่กวงจาง ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำนครนิวยอร์กกล่าวเปิดการประชุม ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ได้ดึงดูดเจ้าหน้าที่องค์การ NGOs และผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศเข้าร่วมเป็นจำนวนกว่า 1,300 คน ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ สาธารณรัฐโซมาลีแลนด์ สาธารณรัฐฮอนดูรัส และสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน เป็นต้น