New Southbound Policy Portal

สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นไต้หวัน – แคนาดาร่วมเปิดการเจรจาเพื่อลงนาม “ความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ” (FIPA) ภายใต้หลักการการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันอย่างเท่าเทียม

♦ การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในการเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน โดยในปีนี้ Mr. Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีของแคนาดา ได้ร่วมแสดงการสนับสนุนให้ไต้หวันเข้าร่วมการประชุม WHA อย่างเปิดเผย

♦ ไต้หวัน - แคนาดามีเป้าหมายร่วมกันในการธำรงรักษาเสรีภาพ การเปิดกว้าง ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกให้คงอยู่สืบไป
-------------------------------------------
MOFA วันที่ 21 ธ.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (Ministry of Foreign Affairs, MOFA) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แก่ Mr. Robert Fife ผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ The Globe and Mail สาขาออตตาวา และ Mr. Steven Chase ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายการเมืองของนสพ. The Globe and Mail สื่อทรงอิทธิพลของแคนาดา โดยบทสัมภาษณ์ข้างต้นได้รับการเผยแพร่ไปเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. รมว.อู๋ฯ กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่า ไต้หวันตั้งอยู่ในแนวหน้าที่ต้องเผชิญกับการข่มขู่ด้วยกำลังทางทหารของจีนอยู่เป็นประจำ และรู้ซึ้งถึงพฤติกรรมการแทรกแซงและการแผ่ขยายอำนาจเผด็จการของจีนอย่างลึกซึ้ง ด้วยเหตุนี้ รมว.อู๋ฯ จึงขอเรียกร้องให้ทุกประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันประสานความร่วมมือในการปกป้องค่านิยมสากลด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพให้คงอยู่สืบต่อไป

 

รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมา ประชาคมโลกต่างได้ประจักษ์ถึงการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนด้วยพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม อาทิ กองทัพเรือจีนได้เพิ่มความถี่ในการดำเนินภารกิจทางการทหาร ณ บริเวณทะเลจีนตะวันออก ทะเลจีนใต้ และมหาสมุทรอินเดีย โดยเฉพาะในช่วงนี้ ทางรัฐบาลจีนได้ส่งเครื่องบินรบรุกล้ำเข้าสู่เขตแสดงตน (ADIZ) ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวันนับครั้งไม่ถ้วน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดทอนประสิทธิภาพด้านการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน ซึ่งเป็นที่จับตามองของประชาคมโลกเป็นอย่างมาก ต่อกรณีพฤติกรรมที่จีนกระทำต่อไต้หวัน แคนาดา และออสเตรเลียในช่วงที่ผ่านมา รมว. อู๋ฯ กล่าวว่า การที่ไต้หวัน แคนาดา และออสเตรเลียจะต่อกรกับจีนแต่เพียงลำพังเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก แต่เนื่องจากทั้งสามประเทศเป็นประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันในค่านิยมด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม จึงควรที่จะสามัคคีซึ่งกันและกัน พร้อมเร่งเสริมสร้างความร่วมมือในเชิงลึกกับสหรัฐฯ สหภาพยุโรป อินเดีย และญี่ปุ่น จึงจะสามารถเอาชนะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของรัฐบาลจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ไต้หวันเป็นหุ้นส่วนทางการค้าของแคนาดาที่ใหญ่เป็นอันดับ 13 ของโลก อันดับ 5 ของเอเชีย รมว.อู๋ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นไต้หวัน – แคนาดาร่วมเปิดการเจรจาเพื่อลงนาม “ความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ” (Foreign Investment Promotion and Protection Agreement, FIPA) ภายใต้หลักการการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันอย่างเท่าเทียม พร้อมนี้ รมว.อู๋ฯ ยังคาดหวังให้รัฐบาลแคนาดาให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมใน “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership, CPTPP) ในเร็ววัน ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า รวมถึงความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนในด้านต่างๆ ระหว่างไต้หวัน – แคนาดาต่อไป สืบเนื่องจากในปีนี้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ยิ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในการเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน โดยในปีนี้ Mr. Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีของแคนาดา ได้ร่วมแสดงการสนับสนุนให้ไต้หวันเข้าร่วมในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) อย่างเปิดเผย รมว.อู๋ฯ ขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริง

 

ท้ายนี้ รมว. อู๋ฯ แถลงว่า แม้ว่าไต้หวันและแคนาดาจะมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ห่างไกลกัน แต่ทั้งสองต่างเป็นประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกเช่นเดียวกัน มีเป้าหมายร่วมกันในการธำรงรักษาเสรีภาพ การเปิดกว้าง ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกให้คงอยู่สืบไป แม้ว่าไต้หวันจะมีพื้นที่ขนาดเล็ก แต่กลับเป็นประเทศแนวหน้าที่รับมือกับการข่มขู่จากจีนอย่างไม่ย่อท้อ และเป็นประภาคารสำคัญที่ปกป้องค่านิยมด้านเสรีภาพและประชาธิปไตย นอกจากนี้ การที่ประชาชนชาวไต้หวันและแคนาดามีความเชื่อมโยงระหว่างกันอย่างใกล้ชิด เป็นผลอันเนื่องมาจากการที่ทั้งสองประเทศต่างยึดมั่นในค่านิยมสากลร่วมกัน ไต้หวันเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ประชาธิปไตยจะได้รับชัยชนะในท้ายที่สุด

 

นสพ. The Globe and Mail เป็นสื่อภายใต้สำนักข่าวซีทีวี นิวส์ (CTV News) ของแคนาดา ซึ่งนอกจากจะเป็นหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ที่สุดของแคนาดาแล้ว ยังมีบทบาทสำคัญและทรงอิทธิพลเป็นอย่างมาก โดยนสพ.สำนักนี้มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ข่าวต่างประเทศ ซึ่งบทวิจารณ์และรายงานข่าวต่างๆ มักได้รับการอ้างอิงและนำไปใช้โดยสำนักข่าวต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง จึงได้รับการให้ความสำคัญจากรัฐบาลแคนาดา และได้รับความนิยมในหมู่ปัญญาชนของแคนาดาเป็นอย่างมาก