New Southbound Policy Portal
สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ รมว.สาธารณสุข สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ระบุว่า การดำเนินการอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยี การเผยแพร่ข้อมูลที่โปร่งใสโดยรัฐบาล และประสบการณ์ที่ได้รับจากการรับมือกับโรคระบาดเมื่อครั้งอดีต ล้วนเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลให้ไต้หวันประสบความสำเร็จในการป้องกันโรคระบาด
♦ รัฐบาลไต้หวันได้สร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ การดำเนินชีวิตตามปกติ และการสกัดกั้นโรคระบาดภายในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
♦ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การที่ไต้หวันสามารถสกัดกั้นโรคระบาดไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้างได้อย่างประสบความสำเร็จนั้น เป็นผลอันเนื่องมาจากการตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยไต้หวันได้วางแผนแนวทางการดำเนินการที่รวดเร็วและรัดกุม โดยประยุกต์ใช้ประสบการณ์จากการรับมือกับโรคระบาดเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมา
-------------------------------------------
สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำออสเตรีย วันที่ 20 ม.ค. 64
ในช่วงที่ผ่านมา นายเฉินสือจง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Thomas Seifert รองบรรณาธิการและผู้เขียนบทวิจารณ์ของหนังสือพิมพ์ไวเนอร์ (Wiener Zeitung) ของออสเตรีย โดยได้ชี้แจงถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ไต้หวันประสบความสำเร็จในการป้องกันโรคระบาด โดยรมว.เฉินฯ ระบุว่า การดำเนินการอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยี การเผยแพร่ข้อมูลที่โปร่งใสโดยรัฐบาล และประสบการณ์ที่ได้รับจากการรับมือกับโรคระบาดเมื่อครั้งอดีต ล้วนเป็นปัจจัยที่สำคัญ นอกจากนี้ รัฐบาลไต้หวันยังได้สร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ การดำเนินชีวิตตามปกติ และการสกัดกั้นโรคระบาดภายในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
หัวข้อของบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้คือ “ประสบการณ์ที่ไต้หวันได้รับจากบทเรียนครั้งงโรคซาร์สระบาด” (Wir haben unsere Sars-Lektion gelernt) ซึ่งได้ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 16 ม.ค. และฉบับวันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค. รวมถึงเผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ข่าว ตามลำดับ โดย Mr. Seifert กล่าวว่า มาตรการการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน ภายใต้การบัญชาการของรมว.เฉินฯ ได้รับการยอมรับให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการป้องกันโรคระบาดของทั่วโลก อีกทั้งยังสามารถให้คำแนะนำแก่ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ได้อีกด้วย รมว.เฉินฯ กล่าวว่า การที่ไต้หวันสามารถสกัดกั้นโรคระบาดไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้างได้อย่างประสบความสำเร็จนั้น เป็นผลอันเนื่องมาจากการตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยไต้หวันได้วางแผนแนวทางการดำเนินการที่รวดเร็วและรัดกุม โดยประยุกต์ใช้ประสบการณ์จากการรับมือกับโรคระบาดเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมา ซึ่งทำให้รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อจะสามารถดำเนินการได้อย่างรัดกุมและมีความรวดเร็ว นอกจากนี้ เทคโนโลยีก็มีส่วนสำคัญ เนื่องจากไต้หวันมีระบบข้อมูลด้านการป้องกันโรคระบาดที่ประสบความสำเร็จ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์สถานการณ์ของการตรวจคัดกรอง การกักตัว และติดตามประวัติการติดต่อกับผู้อื่น นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้จัดงานแถลงข่าวขึ้นเป็นประจำทุกวัน เพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่โปร่งใสในการสื่อสารกับประชาชน เพื่อสกัดข่าวปลอม และสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชน
นางจางเสี่ยวเยว่ ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำออสเตรีย กล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในออสเตรียได้ลุกลามเป็นวงกว้างและรุนแรง ทำให้รัฐบาลของออสเตรียประกาศมาตรการล็อคดาวน์เป็นระลอกที่ 3 แล้ว ประกอบกับเชื้อไวรัสโควิด – 19 กลายพันธุ์ ทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ รัฐบาลออสเตรียจึงได้ประกาศขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการล็อคดาวน์ไปจนถึงวันที่ 7 ก.พ. พร้อมทั้งออกมาตรการป้องกันโรคระบาดที่เข้มงวดมากขึ้น อาทิ กำหนดระยะห่างทางสังคมที่ปลอดภัย เป็นระยะ 2 เมตร เมื่อจำเป็นต้องไปยังสถานที่สาธารณะต้องสวมหน้ากากอนามัย FFP2 หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าหน้ากากอนามัย N95 เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ประเทศที่มีประสบความสำเร็จด้านการป้องกันโรคระบาด จึงกลายเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนในออสเตรีย ทำให้ก่อนหน้านี้ นางจางฯ ก็เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายใต้หัวข้อดังกล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา สำนักงานความปลอดภัยอาหารและคุ้มครองสุขภาพของผู้บริโภคแห่งออสเตรีย (AGES)ได้จัดการประชุมรูปแบบออนไลน์ว่าด้วยการป้องกันโรคระบาด โดยได้ติดต่อเชิญให้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขของไต้หวันเข้าร่วมนำเสนอรายงานในหัวข้อพิเศษ ซึ่งนางจางฯ ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกล่าวปราศรัยในงานครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ บทความพิเศษภายใต้หัวข้อ “การป้องกันโรคระบาดรูปแบบไต้หวัน” (Corona-Abwehr: Das Taiwan-Modell) ของรมว.เฉินฯ ก็ได้รับการตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ Die Presse ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ในระดับแนวหน้าที่สำคัญของออสเตรีย เมื่อปีที่แล้วด้วยเช่นกัน
นางจางฯ กล่าวว่า ชาวออสเตรียได้ประจักษ์ถึงผลสัมฤทธิ์ที่โดดเด่นของไต้หวัน และมีหลายคนรู้สึกอิจฉาที่ชาวไต้หวันยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ พร้อมคาดหวังที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จของไต้หวัน ซึ่งไต้หวันยินดีและพร้อมให้ความช่วยเหลือในการแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งคาดหวังที่จะให้ทุกแวดวงในยุโรปให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) เพื่อให้ไต้หวันได้มีโอกาสสร้างคุณประโยชน์ที่มากขึ้นแก่ประชาคมโลกสืบต่อไป