New Southbound Policy Portal
สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ ในยุคหลังโควิดนี้ รัฐบาลไต้หวันจะพยายามส่งเสริมให้ไต้หวันสามารถรักษาบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของโลก พร้อมยกระดับให้ไต้หวันกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกใน 4 ด้าน ได้แก่ “การผลิตระดับสูง การค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีชั้นสูง การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูง และการพัฒนาพลังงานสะอาด” เพื่อร่วมกันสร้างไต้หวันให้เป็นดินแดนแห่งความเท่าเทียมและยั่งยืน
♦ บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว ถือว่าพุ่งขึ้นทั้งราคาและปริมาณการซื้อขาย ไม่เพียงแต่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะสามารถพุ่งทำลายสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ได้หลายครั้ง บริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดก็มากกว่า 1,700 แห่ง และมีมูลค่ารวมมากถึง 49 ล้านล้านเหรียญไต้หวัน
♦ ตั้งแต่ต้นปีมานี้ ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันยังคงอยู่ในภาวะคึกคักอย่างต่อเนื่อง มูลค่าการซื้อขายโดยเฉลี่ยในแต่ละวันทะลุ 300,000 ล้านเหรียญไต้หวัน
-------------------------------------------
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 8 ก.พ. 64
เมื่อเช้าวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแห่งสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) ได้เดินทางไปตรวจการณ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งไต้หวัน พร้อมแสดงความเห็นว่า ในปีแล้ว การที่ประชาชนทั่วประเทศให้ความร่วมมือในการป้องกันโรคระบาดอย่างเต็มที่ทำให้เศรษฐกิจของไต้หวันพลิกกลับมาขยายตัว ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ของไต้หวันก็อยู่ในภาวะที่พุ่งขึ้นทั้งราคาและปริมาณการซื้อขาย โดยในยุคหลังโควิดนี้ รัฐบาลจะพยายามส่งเสริมให้ไต้หวันสามารถรักษาบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของโลก พร้อมยกระดับให้ไต้หวันกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกใน 4 ด้าน ได้แก่ “การผลิตระดับสูง การค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีชั้นสูง การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูง และการพัฒนาพลังงานสะอาด” เพื่อร่วมกันสร้างไต้หวันให้เป็นดินแดนแห่งความเท่าเทียมและยั่งยืน
ในระหว่างกล่าวปราศรัย ประธานาธิบดีชี้ว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว ถือว่าพุ่งขึ้นทั้งราคาและปริมาณการซื้อขาย ไม่เพียงแต่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะสามารถพุ่งทำลายสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ได้หลายครั้ง บริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดก็มากกว่า 1,700 แห่ง และมีมูลค่ารวมมากถึง 49 ล้านล้านเหรียญไต้หวัน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดทุนทั้งในด้านการระดมทุนและการไหลเวียนของเงินทุนได้เป็นอย่างดี
โดยประธานาธิบดียังชี้อีกว่า ตั้งแต่ต้นปีมานี้ ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันยังคงอยู่ในภาวะคึกคักอย่างต่อเนื่อง มูลค่าการซื้อขายโดยเฉลี่ยในแต่ละวันทะลุ 300,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ทำให้ทั้งนักลงทุน บริษัท และการเก็บภาษีของรัฐบาล ต่างก็มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างถ้วนหน้า โดยรัฐบาลสามารถเรียกเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นในปีที่แล้วได้มากกว่า 150,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ สร้างรายได้ให้กับคลังแผ่นดินเป็นจำนวนไม่น้อย
ประธานาธิบดีเห็นว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันได้ก่อตั้งครบรอบ 60 ปี ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันได้เป็นประจักษ์พยานถึงความสำเร็จของเศรษฐกิจไต้หวัน และถือเป็นพลังสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการของไต้หวัน โดยประธานาธิบดียังกล่าวให้กำลังคณะกรรมการกำกับดูแลสถาบันการเงินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ให้คอยกำกับดูแลการบริหารงานของบริษัทต่างๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนทั่วไป และช่วยให้ตลาดทุนมีการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ