New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 10 มี.ค.64
เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา (เป็นเวลา 09.00 น. ตามเวลาของกรุงบรัสเซลส์) ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้กล่าวปราศรัยเปิดการประชุมด้านห่วงโซ่อุปทานระหว่างอียู-ไต้หวัน (EU-Taiwan Supply Chains Forum) ผ่านวีดิทัศน์ ซึ่งประธานาธิบดีชี้ว่า ไต้หวันและอียูต่างก็เป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญของกันและกัน ความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกจึงทำให้เห็นถึงความสำคัญด้านเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทาน พร้อมหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถผ่านพ้นปัญหาจากการแพร่ระบาดของโรค และมีความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างระบบห่วงโซ่อุปทานที่มีความแข็งแกร่ง หลากหลายและน่าเชื่อถือ อันจะเป็นการสร้างประโยชน์ให้ผู้ประกอบการของทั้งสองฝ่าย
ใจความสำคัญในคำกล่าวปราศรัยของประธานาธิบดี สรุปได้ดังนี้ :
ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนาคตอันน่าตื่นเต้น ไต้หวันและสหภาพยุโรปต่างก็ถือเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญของกันและกัน อีกทั้งสหภาพยุโรปก็เป็นแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดของการลงทุนจากต่างประเทศในไต้หวันด้วย
ความสัมพันธ์ของเราตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีแนวความคิดที่สอดคล้องกันในด้านประชาธิปไตย เสรีภาพ และความเป็นนิติรัฐ การที่ไต้หวันให้ความสำคัญกับทรัพย์สินทางปัญญา โดยจากความสำเร็จในการป้องกันโรคระบาดและความเป็นมืออาชีพในการทำการค้า จะช่วยให้ความร่วมมือระหว่างเรามีความแข็งแกร่งมากขึ้น และสามารถพัฒนาไปสู่ห่วงโซ่อุปทานที่มีความสมบูรณ์
ปัจจุบัน สหภาพยุโรปได้จัดให้พลังงานสีเขียวและเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นหัวใจสำคัญของแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ไต้หวันเองก็กำลังเร่งพัฒนาพลังงานสีเขียว และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
โดยไต้หวันได้ยกให้อุตสาหกรรมอีเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ พลังงานหมุนเวียน และเทคโนโลยีชีวภาพ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ พร้อมสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่มีการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศสามารถสร้างความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในชั้นนี้ นโยบายด้านการค้าของสหภาพยุโรปได้ให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าต้องขอบคุณมิตรสหายในรัฐสภายุโรป และผู้นำในองค์กรธุรกิจของสหภาพยุโรปเป็นอย่างมาก ที่อุทิศตนอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างไต้หวันกับสหภาพยุโรปมาเป็นเวลายาวนาน
กิจกรรมเช่นในวันนี้ ช่วยให้ความสัมพันธ์ในเชิงลึกระหว่างกันมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการลงทุนและการจ้างงาน อีกทั้งเป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่พัฒนาการแห่งอนาคตต่อไปในภายภาคหน้า