New Southbound Policy Portal

ปธน.ไช่ฯ เข้าร่วมพิธีเปิดมหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ของไต้หวัน ดันยุทธศาสตร์ “ความปลอดภัยทางไซเบอร์เปรียบเสมือนความมั่นคงแห่งชาติ”

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 4 พ.ค. 64

 

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วม “พิธีเปิดมหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ของไต้หวัน ปี 2021” (CYBERSEC 2021) โดยปธน.ไช่ฯ แถลงว่า ไต้หวันเป็นประเทศแนวหน้าด้านประชาธิปไตย ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แนวหน้าของโลกแล้ว ยังเป็นสนามฝึกซ้อมในด่านแรกอีกด้วย จึงขอให้ทุกคนเร่งประสานความร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ในการเสริมสร้างพื้นที่ในโลกอินเทอร์เน็ตให้มีความเจริญก้าวหน้า พร้อมทั้งพัฒนาข้อได้เปรียบในแบบฉบับของไต้หวัน โดยรัฐบาลจะเร่งจัดตั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามหลักนิติธรรม พร้อมฝึกอบรมบุคลากร และให้การสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ปธน.ไช่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นภาครัฐบาลและผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ภาคเอกชน รวมถึงมิตรสหาย ร่วมจับมือกันเสริมสร้าง “ประเทศอัจฉริยะที่แข็งแกร่ง ปลอดภัย และสามารถไว้วางใจได้”

 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ความปลอดภัยทางไซเบอร์เปรียบเสมือนความมั่นคงแห่งชาติ ความปลอดภัยทางไซเบอร์นับเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรม โดยภายใต้กระแสแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคแห่งเทคโนโลยี 5G และเทคโนโลยีดิจิทัลนั้น ไต้หวันต้องเร่งเสริมสร้างระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และห่วงโซ่อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สามารถปกป้องตนเองและได้รับความไว้วางใจจากประชาคมโลก

 

ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า ก่อนหน้านี้ รัฐบาลไต้หวันได้ผลักดันยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วย “ความปลอดภัยทางไซเบอร์เปรียบเสมือนความมั่นคงแห่งชาติ 1.0” โดยสภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดตั้งหน่วยงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ กระทรวงกลาโหมจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศทหาร กรมสอบสวน กระทรวงยุติธรรมก็ได้จัดตั้งสถานีส่งเสริมความปลอดภัยทางไซเบอร์ นอกจากนี้ สภานิติบัญญัติไต้หวันก็ได้มีมติผ่าน “ร่างกฎหมายว่าด้วยการบริหารความปลอดภัยทางไซเบอร์” สร้างรากฐานที่มั่นคงอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่หลักนิติธรรม ลงไปจนถึงองค์กรและบุคลากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของหน่วยงานภาครัฐ

 

ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า มหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ในครั้งนี้ มีผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดแสดงเป็นจำนวน 200 กว่าราย โดยผู้ประกอบเหล่านี้ล้วนมีศักยภาพทางเทคโนโลยี แนวความคิดสร้างสรรค์ และเป็นผู้คิดค้นโซลูชันในการแก้ไขปัญหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นข้อได้เปรียบของอุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ของไต้หวัน

 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ในลำดับต่อไป รัฐบาลจะผลักดันยุทธศาสตร์ “ความปลอดภัยทางไซเบอร์เปรียบเสมือนความมั่นคงแห่งชาติ 2.0” โดยได้วางแผนจัดตั้งหน่วยงานพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมทั้งจัดตั้งสำนักงานความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ยกระดับความยืดหยุ่นในการป้องกันสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและฐานข้อมูลหลัก โดยรัฐบาลจะเร่งจัดตั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามหลักนิติธรรม พร้อมฝึกอบรมบุคลากร ตลอดจนให้การสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม อย่างต่อเนื่องต่อไป