New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 10 พ.ค. 64
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้แสดงปาฐกถาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ใน “การประชุมสุดยอดประชาธิปไตยโคเปนเฮเกน” (Copenhagen Democracy Summit) ครั้งที่ 4 ที่จัดขึ้นโดย “สมาพันธ์ประชาธิปไตย” (Alliance of Democracies, AoD)
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า การขยายอำนาจของระบอบเผด็จการได้กลายเป็นภัยคุกคามต่อค่านิยมด้านประชาธิปไตย ปธน.ไช่ฯ จึงเรียกร้องให้หุ้นส่วนด้านประชาธิปไตยทั่วโลกประสานความร่วมมือกัน ในการธำรงรักษาค่านิยมสากลด้านเสรีภาพ หลักนิติธรรม และสิทธิมนุษยชน รวมถึงสร้างหลักประกันด้านความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคให้คงอยู่สืบไป นอกจากนี้ จากการเจรจาว่าด้วยความตกลงด้านการลงทุนแบบทวิภาคีระหว่างประเทศที่เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระดับนานาชาติ นอกจากจะสามารถสร้างหลักประกันด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานให้ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นแล้ว ยังเป็นการปกป้องผลประโยชน์ร่วมกันทั้งในด้านเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์อีกด้วย
การแสดงปาฐกถาของปธน.ไช่ฯ ในครั้งนี้ มีสาระสำคัญดังนี้
เนื่องจากไต้หวันยึดมั่นในค่านิยมด้านเสรีภาพและประชาธิปไตย จึงตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีด้วยการเผยแพร่ข่าวปลอม การสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งการข่มขู่ด้วยกำลังทหาร ดังนั้นรัฐบาลไต้หวันจึงต้องเร่งเสริมสร้างแสนยานุภาพทางการทหาร เพื่อปกป้องความเป็นประชาธิปไตยไม่ให้ถูกรุกราน นอกจากนี้ ไต้หวันยังได้ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรทั่วโลก เพื่อสร้างหลักประกันด้านความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคให้คงอยู่สืบไป
ในปัจจุบัน ประเทศเผด็จการกำลังอาศัยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ทำลายความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศบนพื้นฐานของกฎระเบียบสากล เราจะเห็นได้ว่า ประเทศเผด็จการบางประเทศได้พยายามเข้าครอบครองทรัพยากรที่มีความสำคัญ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมประเทศอื่น ด้วยเหตุนี้ เรายิ่งต้องประสานความร่วมมือกันเพื่อสร้างหลักประกันด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนธำรงรักษาระเบียบทางเศรษฐกิจของโลกเอาไว้
ในขณะที่เรามุ่งมั่นในการดำเนินการสกัดกั้นโรคระบาด เรายังได้ยึดมั่นในหน้าที่ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่มิตรประเทศทั่วโลกที่ประสบกับวิกฤตโรคระบาด โดยประชาคมโลกต้องเร่งประสานความร่วมมือกัน รวมถึงให้ไต้หวันได้มีส่วนช่วยเหลือควบคู่ไปด้วย ไต้หวันเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในด้านการป้องกันโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่เคยละเลยในด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพเลย
การประชุมสมัชชาอนามัยโลกและการประชุมนานาชาติในด้านต่างๆ ได้กีดกันไม่ให้ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ภาครัฐของไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมมาเป็นเวลานาน ถือเป็นการลิดรอนโอกาสที่ไต้หวันจะได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์เพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาคมโลก ไม่เพียงเท่านั้น ในฐานะที่ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกที่มีความรับผิดชอบ ไต้หวันยังคงยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่มีความต้องการอย่างกระตือรือร้นต่อไป
การที่เห็นประเทศประชาธิปไตยร่วมผนึกกำลังกันปกป้องค่านิยมสากล ทำให้เราเกิดความรู้สึกฮึกเหิมเป็นอย่างมาก โดยไต้หวันตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดประชาธิปไตยที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา เป็นประธานการประชุม และการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนํา 7 ประเทศ ที่สหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันในเชิงลึกต่อไป
ประชาธิปไตยของไต้หวันได้มาโดยการเสียสละของบรรพบุรุษที่ต่อต้านระบอบการปกครองแบบเผด็จการ ในปัจจุบันเป็นอีกครั้งที่เสรีภาพและประชาธิปไตยถูกคุกคาม ปธน.ไช่ฯ จึงขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อรับมือกับความท้าทายในรูปแบบใหม่
“สมาพันธ์ประชาธิปไตย” ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัด “การประชุมสุดยอดประชาธิปไตยโคเปนเฮเกน” เป็นองค์การนอกภาครัฐที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย Mr. Anders Fogh Rasmussen อดีตนายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก และเลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization, NATO) สำหรับการประชุมสุดยอดประชาธิปไตยโคเปนเฮเกนถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2018 โดยการประชุมในปีนี้ได้เปลี่ยนมาจัดขึ้นในรูปแบบไฮบริด ที่มีทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กัน