New Southbound Policy Portal

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 18 พ.ค. 64
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 พ.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางไปตรวจการณ์ภารกิจการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด – 19 ที่ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (CECC) ไต้หวัน พร้อมแถลงว่า วัคซีนที่ผลิตในประเทศและที่สั่งซื้อจากต่างประเทศ กำลังทยอยส่งมอบ ทั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเกราะป้องกันโรคระบาดให้แก่ประชาชน อย่างเพียงพอ ปธน.ไช่ฯ จึงเรียกร้องให้ทุกคนมิต้องวิตกกังวลใจเกินกว่าเหตุ อีกทั้งยังเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนให้ความร่วมมือกับมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเสียสละทรัพยากรทางการแพทย์ให้แก่ผู้ป่วยอาการหนักก่อน โดยทางศูนย์ตรวจคัดกรองโรคระบาดที่จัดเพิ่มคณะทำงานพิเศษ จะให้การบริการด้านการดูแลผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงนักและผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการอย่างเต็มที่ ตลอดจนขยายศักยภาพในการเปิดรับผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวในสถานพยาบาลต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า นับตั้งแต่ปีที่แล้วที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ภาครัฐและภาคเอกชนของไต้หวัน ต่างร่วมแลกเปลี่ยนกับนานาประเทศอย่างกระตือรือร้น ปัจจุบัน บริษัท Medigen Vaccine Biologics Corp. และบริษัท United BioPharma ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นวิจัยด้านวัคซีน ต่างเร่งทำการวิจัยและพัฒนาอย่างขมักเขม้น รวมไปถึงการทดลองทางคลินิก และการเพิ่มพูนศักยภาพด้านการผลิตในอนาคต เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายในช่วงที่ 2 ของการทดลองทางคลินิกแล้ว โดยปธน.ไช่ฯ ได้ขอร้องให้ 2 บริษัทผลิตวัคซีนข้างต้น มุ่งมั่นทำการทดลองต่อไปอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถผลิตวัคซีนที่มีความปลอดภัยและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพได้เร็วยิ่งขึ้น
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า การวิจัยและพัฒนาวัคซีนนอกจากจะเป็นผลประโยชน์ของภาคธุรกิจแล้ว ยังหมายรวมถึงความปลอดภัยของประเทศชาติ และสุขภาพของสาธารณชนด้วย ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ปธน.ไช่ฯ ขอบคุณสำหรับความพยายามของทีมบุคลากรใน 2 บริษัทข้างต้นเป็นอย่างมาก พร้อมคาดหวังที่จะเห็นวัคซีนที่ผลิตในประเทศ สามารถบรรลุผลสำเร็จในระยะเวลาที่กำหนดไว้ด้วยคุณภาพที่เยี่ยมยอด เพื่อความสบายใจของภาคประชาสังคม
 
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า นอกจากการสั่งซื้อวัคซีนจากต่างประเทศแล้ว การผลิตและวิจัยวัคซีนภายในประเทศก็อยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ จากประสบการณ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เราตระหนักถึง ความจำเป็นที่จะต้องสั่งสมศักยภาพการผลิตสินค้ายุทธศาสตร์ด้านการป้องกันโรคระบาดภายในประเทศ ภายใต้บริบทแห่งสถานการณ์โรคระบาดที่คับขันเช่นนี้ จึงจะสามารถช่วยเหลือตนเอง และช่วยเหลือผู้อื่นได้
 
ปธน.ไช่ฯ แถลงว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง และจะตรวจสอบความปลอดภัยและคุณภาพของวัคซีนอย่างถี่ถ้วน คาดหวังว่าภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ จะสามารถเปิดใช้วัคซีนภายในประเทศล็อตแรกได้สำเร็จ เพื่อมอบเกราะป้องกันที่เพียงพอให้กับประชาชนชาวไต้หวัน นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้ส่งมอบกำลังใจให้กับเหล่าบุคลากรของบริษัทผลิตวัคซีนทั้ง 2 แห่งข้างต้น ในการมุ่งมั่นทำการทดลองทางคลินิกต่อไปอย่างราบรื่น เพื่อเร่งผลิตวัคซีนที่ปลอดภัยและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพต่อไป