New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 26 พ.ค. 64
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Nick Schifrin ผู้สื่อข่าวอาวุโสด้านการต่างประเทศและกลาโหมของ “รายการข่าวโทรทัศน์พีบีเอสนิวส์อาวร์ (PBS Newshour)” ของสหรัฐอเมริกา โดยรมว.อู๋ฯ ได้กล่าวชี้แจงในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรณีที่รัฐบาลจีนข่มขู่ไต้หวันด้วยกำลังทหารและการโจมตีทางไซเบอร์ การเสริมสร้างแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศของไต้หวัน และการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ เป็นต้น โดยเนื้อหาการสัมภาษณ์ของรมว.อู๋ฯ ได้รับการเผยแพร่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา
รมว.อู๋ฯ ระบุว่า หลายปีมานี้ เครื่องบินรบจีนได้รุกล้ำเข้าสู่น่านฟ้าไต้หวันบ่อยครั้ง เฉพาะในปี 2020 มีเครื่องบินรบจีนที่รุกล้ำเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวันมากถึง 2,900 ครั้ง นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังลิดรอนพื้นที่ในเวทีนานาชาติของไต้หวัน ตลอดจนเผยแพร่ข่าวปลอม ในช่วงระหว่างสถานการณ์โควิด – 19 เมื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากจีน ไต้หวันนอกจากจะเร่งเสริมสร้างแสนยานุภาพทางการทหารเพื่อป้องกันประเทศแล้ว ยังได้เรียกร้องให้ประเทศประชาธิปไตยที่มีแนวคิดคคล้ายคลึงกันร่วมให้การสนับสนุน ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาคมโลก โดยแถลงการณ์ในที่ประชุมนานาชาติ เช่น การประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ – ญี่ปุ่นที่จัดขึ้นในเดือนเมษายน ปี 2021 และการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนําระดับโลก 7 ประเทศ (Group of Seven, G7) ที่จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รวมถึงการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ – เกาหลีใต้ ต่างได้มีการเน้นย้ำถึงความสำคัญในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า เมื่อเผชิญหน้ากับการคุกคามจากรัฐบาลจีน ไต้หวันจะเร่งเสริมสร้างแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศ และประสานความร่วมมือในเชิงลึกกับประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐฯ ได้อนุมัติจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับไต้หวัน ตาม “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ไต้หวันก็ได้เร่งพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในประเทศอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างหลักประกันที่เข้มแข็งสำหรับการป้องกันประเทศ นอกจากนี้ เรือรบของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันกับไต้หวัน ก็ได้แวะเวียนมาตรวจตราความสงบเรียบร้อยภายในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงการที่สหรัฐฯ มุ่งให้ความสำคัญกับสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน รวมถึงความมั่นคงปลอดภัยในภูมิภาค
ต่อกรณีการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ นั้น รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้มีการประกาศแก้ไข “ข้อบังคับในการติดต่อกับไต้หวัน” โดยข้อบังคับใหม่นี้มีวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลของทั้งสองฝ่ายสร้างปฏฺิสัมพันธ์ระหว่างกัน เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายให้เป็นไปอย่างแนบแน่นมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการเปิดบริบทใหม่แห่งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ ปธน.โจ ไบเดน ยังได้มอบหมายให้ Mr. Christopher Dodd, D-CT อดีตสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐฯ เดินทางมาเยือนไต้หวัน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นับเป็นการแสดงให้เห็นถึงการที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างหนักแน่น โดยรัฐบาลไต้หวันจะเร่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในทุกภาคส่วนกับสหรัฐฯ ในเชิงลึกต่อไป เพื่อส่งเสริมให้ความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างสองประเทศ ได้รับการพัฒนาต่อไปอย่างมีเสถียรภาพ
“รายการข่าวโทรทัศน์พีบีเอสนิวส์อาวร์” ของสหรัฐฯ เป็นรายการข่าวภาคค่ำที่ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ โดยจะทำการแพร่ภาพทุกช่วงค่ำเป็นเวลา 1 ชั่วโมง มียอดผู้ติดตามรับชมกว่า 2 ล้านคน ถือเป็นรายการที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้นำทางความคิดเห็นและหมู่ปัญญาชนเป็นอย่างมาก