New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 29 มิ.ย. 64
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 มิ.ย. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้กล่าวสุนทรพจน์ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี ภายใต้ประเด็นภารกิจการป้องกันโรคระบาด และการประชุมเจรจาภายใต้กรอบความตกลงทางการค้าและการลงทุน (Trade and Investment Framework Agreement, TIFA) ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า การประชุมภายใต้กรอบความตกลง TIFA มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ หลังจากที่ขาดช่วงไปเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งนี่นับเป็นก้าวสำคัญในด้านการค้าระหว่างประเทศของไต้หวัน โดยจากการประชุมในครั้งนี้ จะสามารถช่วยเสริมสร้างพื้นฐานความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ให้เกิดความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การประชุมภายใต้กรอบความตกลง TIFA ที่จะเตรียมจะเปิดฉากขึ้นนี้ ยังได้จัดให้มีการอภิปรายในประเด็นการลดขั้นตอนพิธีการศุลกากรทั้งด้านการนำเข้าและส่งออกเวชภัณฑ์การแพทย์ รวมไปถึงวัคซีน ปธน.ไช่ฯ เชื่อมั่นว่า ความร่วมมืออันเป็นรูปธรรมเหล่านี้ จะมีส่วนช่วยให้ไต้หวันสามารถก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในครั้งนี้ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สุนทรพจน์ของปธน.ไช่ฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
การเจรจาภายใต้กรอบความตกลงทางการค้าและการลงทุน (Trade and Investment Framework Agreement, TIFA) ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ หลังจากที่ขาดช่วงไปเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งนี่นับเป็นก้าวสำคัญในด้านการค้าระหว่างประเทศของไต้หวัน
หลายปีมานี้ พวกเรามุ่งมั่นทุ่มเทในการผลักดันการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ พร้อมแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในด้านการค้า เพื่อมุ่งสู่เวทีระดับนานาชาติ โดยทั้งไต้หวัน – สหรัฐฯ ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ขณะนี้ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพัฒนากรอบความตกลง TIFA ให้มุ่งไปสู่อีกระดับ
TIFA เป็นแพลตฟอร์มด้านการเจรจาและประสานงานที่เกี่ยวข้องกับกลไกทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ซึ่งจากการเปิดฉากการดำเนินงานภายใต้แพลตฟอร์มนี้ จะสามารถผลักดันให้เกิดการเจรจาด้านการค้าและเศรษฐกิจย่างมีระบบ รวมถึงช่วยจัดการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคี ซึ่งมีความสำคัญต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ในเชิงลึกต่อไป
ในระหว่างการประชุมภายใต้กรอบความตกลง TIFA จะมีการรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าแบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ โดยจะนำประเด็นที่เคยถูกอภิปรายในอดีต และประเด็นการรับมือทางการค้าที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลกล่าสุด หยิบยกขึ้นมาหารือใหม่อย่างละเอียด เพื่อร่วมจัดตั้งโครงสร้าง หลักการ และขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาในประเด็นที่เกี่ยวข้องระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ในภายภาคหน้าต่อไป
การประชุมภายใต้กรอบความตกลง TIFA ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ประเด็นสำคัญที่จัดให้มีการอภิปรายคือการลดขั้นตอนพิธีการศุลกากรทั้งด้านการนำเข้าและส่งออกเวชภัณฑ์การแพทย์ รวมไปถึงวัคซีน ปธน.ไช่ฯ เชื่อมั่นว่า ความร่วมมืออันเป็นรูปธรรมเหล่านี้ จะมีส่วนช่วยให้ไต้หวันสามารถก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในครั้งนี้ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลายปีมานี้ การพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองและสันติภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก นับเป็นเป้าหมายร่วมกันของกลุ่มประเทศในภูมิภาค การที่สถานการณ์โควิด – 19 ในไต้หวัน ได้รับการควบคุมไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับความผันผวนทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง ต่างก็สามารถสร้างคุณประโยชน์ในด้านความเจริญรุ่งเรืองและสันติภาพให้เกิดแก่ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก
ด้วยเหตุนี้ การเปิดการเจรจาภายใต้ความตกลง TIFA จึงนับเป็นก้าวสำคัญ ปธน.ไช่ฯ จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนร่วมให้กำลังใจและให้การสนับสนุนแก่บรรดาเจ้าหน้าที่ด้านการทูตและเจ้าหน้าที่ด้านเศรษฐกิจและการค้า ให้สามารถปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถ