New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 2 ก.ค. 64
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Arnaud Vaulerin ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ Libération ของฝรั่งเศส โดยได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ อาทิ การเปิดการประชุมเจรจาระหว่างไต้หวัน-สหรัฐฯ ภายใต้กรอบความตกลงทางการค้าและการลงทุน (Trade and Investment Framework Agreement, TIFA) การข่มขู่ไต้หวันของรัฐบาลจีน สภาพการณ์ในปัจจุบันของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน และสถานการณ์ล่าสุดในฮ่องกง เป็นต้น
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า ในช่วงที่ผ่านมา ไต้หวัน - สหรัฐฯ ได้เปิดฉากการประชุมภายใต้กรอบความตกลง TIFA ขึ้นอีกครั้ง โดยไต้หวันคาดหวังที่จะสานความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ให้เกิดความแนบแน่นยิ่งขึ้น จากการประชุมในครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในเชิงลึกต่อไป
ต่อกรณีที่จีนข่มขู่ไต้หวันด้วยกำลังทหารและการโจมตีทางไซเบอร์ รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า หลายปีมานี้ เครื่องบินรบจีนได้รุกล้ำเข้าสู่น่านฟ้าไต้หวันบ่อยครั้ง เฉพาะในปี 2020 มีเครื่องบินรบจีนที่รุกล้ำเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวันมากถึง 2,900 ครั้ง นอกจากนี้ นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงพฤษภาคมที่ผ่านมา เครื่องบินทหารของกองทัพจีนรุกล้ำน่านฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน เป็นระยะเวลาเกิน 100 วันแล้ว นอกจากการข่มขู่ด้วยกำลังทหารแล้ว รัฐบาลจีนยังได้รุกรานไต้หวันด้วยการเผยแพร่ข่าวปลอมผ่าน Content Farm และบรรดาชาวเน็ตจากจีนก็โจมตีไต้หวันด้วยข่าวปลอมอย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่จากจีน ไต้หวันนอกจากจะเร่งเสริมสร้างแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจากประชาคมโลกและประเทศที่มีแนวคิคดคล้ายคลึงกัน โดยจะเห็นได้จากการประชุมระดับนานาชาติที่จัดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ต่างได้มีการร่วมแสดงความห่วงใยต่อประเด็นสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน อย่างเช่น การรวมกลุ่มเจรจาด้านความมั่นคงปลอดภัยระหว่างภาคี 4 ประเทศ (QUAD) การประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างสหรัฐฯ – ญี่ปุ่น สหรัฐฯ – เกาหลีใต้ และการประชุมสุดยอดผู้นำ EU – ญี่ปุ่น และ EU – US รวมถึงการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่มประเทศ G7 และการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศอื่นๆ เป็นต้น
รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า แม้ว่าจีนจะทำการรุกรานไต้หวันอย่างไม่สิ้นสุด แต่ไต้หวันยังคงยึดมั่นในการแก้ไขปัญหาสองฝั่งช่องแคบไต้หวันด้วยสันติวิธี โดยไต้หวันจะมุ่งมั่นรักษาสถานภาพในปัจจุบันระหว่างสองฝั่งช่องแคบ รวมถึงสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างเต็มกำลัง พร้อมคาดหวังที่เห็นรัฐบาลจีนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบหน้าที่ ในการรักษาสันติภาพและความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่าหลายปีมานี้ สถานการณ์ในฮ่องกงถือเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “หลักการ 1 ประเทศ 2 ระบบ” ที่รัฐบาลจีนได้ให้คำมั่นไว้ ไม่มีอยู่จริง เพราะในความเป็นจริง รัฐบาลจีนได้บีบบังคับให้ฮ่องกงยอมรับและให้ความร่วมมือตามหลักการ “1 ประเทศ 1 ระบบ” จากกรณีสถานการณ์ในฮ่องกง ยิ่งเป็นการเน้นย้ำให้ประชาชนชาวไต้หวันยืนหยัดในการธำรงรักษาระบอบประชาธิปไตยและเสรีภาพของตนต่อไปอย่างมุ่งมั่น โดยรัฐบาลไต้หวันจะร่วมต่อสู้อย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องประชาธิปไตยและเสรีภาพของไต้หวันให้คงอยู่สืบไป
นสพ. Libération ของฝรั่งเศส ก่อกำเนิดขึ้นในปี 1973 นับเป็นสื่อทรงอิทธิพลที่ได้รับความสำคัญจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูงและกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายของประเทศ และเป็นสื่อที่ได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติมาเป็นเวลานาน