New Southbound Policy Portal

กรอบความร่วมมือ GCTF จัดการประชุมในหัวข้อ “การปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลก : กลยุทธ์ในการลดความเปราะบางต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจ (ความท้าทายและโอกาสในสาธารณรัฐเช็ก)” โดยจัดขึ้นที่สาธารณรัฐเช็กเป็นครั้งแรก

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 16 ก.ย. 64
 
เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับสาธารณรัฐเช็ก ในด้านการสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานและเสริมสร้างศักยภาพในการรับมือของกลุ่มผู้ประกอบการในยุคหลังโควิด – 19 สำนักงานตัวแทนไต้หวันในเช็ก พร้อมด้วยวุฒิสภาเช็ก สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในเช็ก หอการค้าเช็ก - ไต้หวัน และ “สมาคมกิจการระหว่างประเทศ” (AMO) คลังสมองของสาธารณรัฐเช็ก จึงได้ร่วมจัดการประชุมขึ้นในหัวข้อ “การปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลก : กลยุทธ์ในการลดความเปราะบางต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจ (ความท้าทายและโอกาสในสาธารณรัฐเช็ก)” (Global Supply Chains Reset: Strategies for Reducing Vulnerability to Economic Coercion﹝Opportunities and Challenges for Czech Republic﹞) ภายใต้กรอบความร่วมมือและฝึกอบรมนานาชาติ (GCTF) ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่กรอบความร่วมมือ GCTF ย้ายมาจัดการประชุมที่ทวีปยุโรป และถือเป็นครั้งแรกของการจัดกิจกรรมภายใต้กรอบ GCTF สำหรับสาธารณรัฐเช็กเป็นการเฉพาะอีกด้วย
 
การประชุมในครั้งนี้ มี Mr. Miloš Vystrčil ประธานวุฒิสภาเช็กทำหน้าที่เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม ซึ่งมีตัวแทนจากรัฐบาล องค์กรธุรกิจ แวดวงวิชาการ รวมถึงตัวแทนสถานเอกอัครราชทูกจากนานาประเทศ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วย
 
นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) กล่าวขณะปราศรัยว่า นับตั้งแต่ที่กรอบความร่วมมือ GCTF จัดตั้งขึ้นนับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ไต้หวันก็ได้อาศัยความเชี่ยวชาญและข้อได้เปรียบในทุกด้านของไต้หวัน ประสานความร่วมมือกับสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อจัดการประชุมและกิจกรรมฝึกอบรมในประเด็นที่ทั่วโลกจับตาให้ความสนใจ พร้อมทั้งเชิญพันธมิตรจากทุกแวดวงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอภิปรายหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน
 
Mr. Miloš Vystrčil กล่าวเน้นย้ำขณะปราศรัยว่า กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจควรที่จะตรึกตรองถึงนัยยะของ “ห่วงโซอุปทานที่ถูกต้อง” อย่ามองเพียงผลประโยชน์ในระยะสั้น โดยละทิ้งการพัฒนากลยุทธ์การแข่งขันในระยะยาว เนื่องจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ไต้หวันและเช็ก ต่างยึดมั่นในค่านิยมสากลด้านประชาธิปไตย เสรีภาพ เช่นเดียวกัน จึงขอให้รัฐบาลเช็กควรผลักดันความร่วมมือกับไต้หวัน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น อย่างกระตือรือร้นต่อไปในอนาคต