New Southbound Policy Portal

ปธน.ไช่ฯ เข้าร่วม“พิธีเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 110 ปีแห่งวันชาติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)” พร้อมแสดงสุนทรพจน์

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 10 ต.ค. 64
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ต.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วม “พิธีเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 110 ปีแห่งวันชาติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)” (The 110th National Day Celebration of the Republic of China (Taiwan) ณ ลานหน้าทำเนียบประธานาธิบดี พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้กล่าวสุนทรพจน์ภายใต้หัวข้อ “ขจัดความขัดแย้งด้วยฉันทามติ ร่วมปกป้องไต้หวันอย่างสามัคคี”
 
สุนทรพจน์ของปธน.ไช่ฯ มีสาระสำคัญ ดังต่อไปนี้
 
1. ประสานสามัคคีในการสำแดงความยืดหยุ่น ร่วมมือกับประชาคมโลกสกัดกั้นโรคระบาด

วันนี้เป็นวาระครบรอบ 110 ปีแห่งวันชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในวันนี้ของทุกปี พวกเราจะมารวมตัวอยู่ ณ ที่แห่งเดียวกัน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการสถาปนาประเทศ โดยพวกเราขอขอบคุณบรรพบุรุษทุกยุคสมัยที่ร่วมปกป้อง และหวงแหนรักษาผืนดินนี้ เอาไว้ให้คงอยู่เรื่อยมาตราบจนปัจจุบัน รวมไปถึงประชาชนทุกคนที่ร่วมอุทิศคุณประโยชน์ในด้านต่างๆ ให้กับประเทศชาติของพวกเรา ณ วันนี้ ประชาชนที่ดำเนินชีวิตอยู่ในไต้หวัน ล้วนแล้วแต่มีภาระหน้าที่ในการปกป้องดินแดนแห่งนี้ให้คงอยู่สืบไปตราบนานเท่านาน
 
ก่อนอื่น ข้าพเจ้าต้องขอขอบคุณบริษัทฟอกซ์คอนน์ เทคโนโลยี กรุ๊ป(Foxconn Technology Group) มูลนิธิการกุศลหย่งหลิง (YongLin Charity Foundation) บริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง จำกัด (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company Ltd. , TSMC) มูลนิธิฉือจี้ (Tzu Chi Foundation) และองค์กรเอกชน ที่ให้ความร่วมมือในการประสานความร่วมมือกับภาครัฐอย่างแข็งขัน นอกจากนี้ ข้าพเจ้ายังต้องขอขอบคุณความมุ่งมั่นพยายามของเหล่าบุคลากรทางการแพทย์ของพวกเรา และที่ขาดไม่ได้เลย ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณต่อประชาชนชาวไต้หวันทุกคน ที่ร่วมสมัครสมานในการปกป้องรักษาไว้ซึ่งประเทศของพวกเรา ภายใต้ช่วงเวลาที่ลำบากที่สุด
 
ประชาชนชาวไต้หวันมีประเพณีดั้งเดิมที่ดีงาม นั่นคือพวกเราไม่เคยลืมบุญคุณที่ได้รับมา ในปีที่แล้ว หน้ากากอนามัยที่พวกเราส่งมอบให้ประชาคมโลก สำแดงให้เห็นถึงหลักการ “ไต้หวันช่วยได้” (Taiwan can Help) โดยวัคซีนที่บรรดามิตรประเทศส่งมอบให้ไต้หวันในปีนี้ นับว่าเป็น “วัคซีนแห่งมิตรภาพ” ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึง “วัฏจักรของพลังแห่งความดี” ข้าพเจ้าขอให้คำมั่นต่อประชาคมโลกว่า ไต้หวันจะสร้างคุณประโยชน์ให้กับประชาคมโลกในภายภาคหน้าต่อไป เพื่อเสริมสร้างให้ “วัฏจักรของพลังแห่งความดี” ได้รับการสืบสานให้คงอยู่ต่อไป
 
หลายปีมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น ดำเนินไปในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรป – ไต้หวัน ก็ดำเนินไปอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น การประชุมเจรจาระหว่างไต้หวัน-สหรัฐฯ ภายใต้กรอบความตกลงทางการค้าและการลงทุน (Trade and Investment Framework Agreement, TIFA) ก็ได้รับการฟื้นฟูและเปิดฉากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา ไต้หวันยังได้ยื่นขอเข้าร่วมใน “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership, CPTPP) จึงจะเห็นได้ว่า ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันไม่ถูกละเลยอีกต่อไป โดยมีมิตรสหายที่ยึดมั่นในประชาธิปไตยหลายคน ยินดีที่จะออกมาให้การสนับสนุนไต้หวันเพิ่มมากขึ้น
 
ภาพลักษณ์ของไต้หวันในเวทีนานาชาติ ไม่ใช่ประเทศที่ถูกโดดเดี่ยวอีกต่อไป แต่กลายมาเป็น “อาณาจักรที่เปี่ยมด้วยความแข็งแกร่งและยืดหยุ่น” ที่มีความสามารถและกล้าเผชิญหน้าต่อทุกปัญหาอย่างกล้าหาญ
 
2. สถานการณ์ในภูมิภาคค่อนข้างซับซ้อน เผชิญหน้ากับความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อน

สถานการณ์ในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก นับวันยิ่งมีความตึงเครียดและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันความสงบเรียบร้อยในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออกกำลังเผชิญกับความท้าทายนานาประการ โดยไต้หวันยินดีที่จะอุทิศคุณประโยชน์ในการพัฒนาเพื่อนำไปสู่สันติภาพในภูมิภาค ส่วนจุดยืนของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ไต้หวันยืนยันว่า ความหวังดีและคำมั่นของพวกเรายังคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง การธำรงไว้ซึ่งสถานภาพในปัจจุบันเป็นหลักการที่พวกเรายึดมั่นมาโดยตลอด ซึ่งพวกเราจะขัดขวางไม่ให้สถานภาพในปัจจุบันได้รับการถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลงไป
 
ข้าพเจ้าขอเน้นย้ำว่า การขจัดความขัดแย้งของสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน จำเป็นต้องอาศัยการเจรจาอย่างเท่าเทียม
 
พวกเราคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความตึงเครียดของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันจะทุเลาลง โดยพวกเราจะไม่กระทำการบุ่มบ่าม ในขณะเดียวกัน พวกเราจะไม่ยอมจำนนต่อความกดดัน โดยพวกเราจะเสริมสร้างแสนยานุภาพด้านกลาโหม เพื่อสำแดงความมุ่งมั่นในการป้องกันประเทศด้วยตนเอง
 
3. ฉันทามติแห่งการรวมพลังสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว ยืนหยัดใน 4 หลักการ

พวกเราจำเป็นต้องยืนหยัดใน 4 หลักการ ประกอบด้วย ยืนหยัดในระบอบการเมืองด้านเสรีภาพและประชาธิปไตย ยืนหยัดในความเชื่อที่ว่า สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่ได้อยู่ใต้อาณัติซึ่งกันและกัน ยืนหยัดในอำนาจอธิปไตยที่ไม่ยินยอมให้ผู้ใดเข้ารุกราน ยืนหยัดในการกำหนดอนาคตของไต้หวันโดยต้องเคารพเจตจำนงของประชาชนชาวไต้หวันทั้งชาติ
 
4 หลักการนี้เป็นแนวทางที่ประชาชนชาวไต้หวันได้ร่วมกำหนดขึ้น และเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดซึ่งพวกเราใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการบริหารประเทศ เมื่อตั้งอยู่บนพื้นฐานที่มีร่วมกัน พวกเรามีหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องสั่งสมความเห็นพ้องต้องกันของภาคประชาชนเพิ่มเติม โดยอาศัยความสามัคคีในการเผชิญหน้ากับความท้าทายในอนาคต
 
พวกเรามีหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกัน นั่นคือการสร้างหลักประกันให้เยาวชนรุ่นใหม่ในไต้หวันสามารถโบยบินบนผืนดินแห่งนี้ได้อย่างเสรีในทุกยุคทุกสมัย
 
4. รวบรวมพลังของประชาสังคม ขจัดความขัดแย้งทุกรูปแบบ

มีหลายคนถามข้าพเจ้าว่า ในลำดับต่อไป เราจะทำอะไรเพื่อไต้หวัน ซึ่งคำตอบของข้าพเจ้านั้นง่ายมาก นอกจากความกล้าหาญในการปฏิรูปและสร้างชาติให้เกรียงไกรแล้ว พวกเรายังต้องสร้างรากฐานที่มั่นคงด้านการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต เพื่อให้ไต้หวันมีศักยภาพที่เพียงพอ มีสังคมที่เปี่ยมด้วยเสถียรภาพ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในลำดับขั้นตอนต่อไป
 
ภารกิจหลักอีกประการของพวกเราคือ จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับประเด็นที่สร้างความวุ่นวายให้กับสังคมไต้หวันมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งและยากที่จะหาข้อสรุปที่เป็นฉันทามติได้ นอกจากนี้ พวกเรายังจำเป็นต้องร่วมสร้างฉันทามติ ด้วยการแสวงหาแผนโซลูชันที่สังคมส่วนมากยอมรับได้ เพื่อขจัดข้อพิพาทที่คงอยู่มาเป็นเวลานาน ไต้หวันจึงจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร้ความวิตกกังวล
 
ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงต้องการใช้ช่วงเวลาในช่วงอีกไม่กี่ปีที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำประเทศ รวบรวมพลังประชาสังคมในการแสวงหาแนวทางการแก้ไขปัญหาของประเด็นเหล่านี้ พร้อมกระตุ้นให้หน่วยงานองค์กรสังคมและการเมืองประสานความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อแสวงหาฉันทามติร่วมท่ามกลางความคิดเห็นที่แตกต่าง ทั้งนี้ เพื่อให้ประเด็นที่เป็นปัญหาได้รับการแก้ไขไปทีละประเด็น ตลอดจนวางรากฐานที่แข็งแกร่งในทิศทางหลักแห่งการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
 
5. ไต้หวันก้าวสู่เวทีประชาคมโลกด้วยความมั่นใจและเปี่ยมด้วยเกียรติยศ

ปี 2021 เป็นปีที่เปี่ยมด้วยความท้าทายและความประทับใจควบคู่กัน ในการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกที่เพิ่งผ่านพ้นไป บรรดานักกีฬาชาวไต้หวันได้ร่วมสร้างผลสัมฤทธิ์ที่ดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
 
หลายวันมานี้ ในขณะที่เครื่องบินรบได้ทำการฝึกซ้อมบินเหนือน่านฟ้าในกรุงไทเป เนื่องในวาระพิธีเฉลิมฉลองวันชาติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) หลายคนที่พบเห็นได้แหงนหน้าขึ้นมองเหล่าทหารอากาศที่ร่วมปกป้องดินแดนไต้หวันด้วยความชื่นชม ซึ่งนอกจากพี่น้องทหารอากาศแล้ว บนท้องถนนในกรุงไทเปยังมีเหล่าทหารในกองทัพที่ร่วมทำการฝึกซ้อมอีกมากมาย ทั้งนายทหารช่าง หน่วยทหารเคมี ขบวนบิ๊กไบด์ของเหล่าสารวัตรทหาร และยานพาหนะทางการทหารในรูปแบบต่างๆ ที่ยากจะพบเห็นตามท้องถนนในเวลาทั่วไป
 
นี่คือกองทัพแห่งชาติ พี่น้องทหารของเรา ที่คอยปกปกษ์คุ้มครองประเทศชาติของพวกเรา ยามที่เกิดภัยพิบัติ บรรดาพี่น้องทหารเหล่านี้ก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาสาธารณภัย ในยามที่อธิปไตยเหนือดินแดน หรือประชาธิปไตยและเสรีภาพถูกรุกราน พวกเขาก็ร่วมปกป้องประเทศชาติอย่างสุดกำลังแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม
 
เหล่าทหารในกองทัพและนักกีฬาในการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก ล้วนเป็นวีรบุรุษของไต้หวัน
 
ข้าพเจ้าคาดหวังที่จะเห็นไต้หวันก้าวไปข้างหน้าด้วยเกียรติยศ ความภาคภูมิใจ และความเชื่อมั่น เป็นนายตนเอง และยินดีเป็นคนของประชาคมโลก ส่งเสริมให้ไต้หวันเป็นไต้หวันของโลก ท้ายนี้ ข้าพเจ้าขออวยพรเนื่องในวันครบรอบ 110 ปีแห่งวันชาติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พร้อมทั้งขออวยพรให้ประชาชนทั้งชาติมีสุขภาพที่ดี ราบรื่นกันถ้วนหน้า ขอบพระคุณทุกคนค่ะ