New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 9 พ.ย. 64
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 9 พ.ย. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “พิธีประกาศผลและมอบรางวัลผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ดีเด่นแห่งชาติครั้งที่ 30 และรางวัลผู้ประกอบการชาวไต้หวันโพ้นทะเลยอดเยี่ยม ครั้งที่ 23” (The Awards Ceremony of the 30th National Award of Outstanding SMEs and the 23th Outstanding Oversea Taiwanese SMEs Award) พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้กล่าวว่า ภายใต้ความมุ่งมั่นร่วมกันของผู้ประกอบการ SMEs และการประสานความร่วมมือในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด – 19 ระหว่างประชาชนและรัฐบาลในประเทศ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไต้หวันในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีโอกาสแตะระดับร้อยละ 6.01 นับเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปี ส่วนการส่งออกก็มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลา 16 เดือน โดยรัฐบาลจะทำการผลักดันแผนกระตุ้นเยียวยาเศรษฐกิจ เพื่อให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ และช่วยให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤตโรคระบาดนี้ไปด้วยกันอย่างราบรื่น
ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ทุกคนถือเป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จที่สำคัญในแวดวงผู้ประกอบการไต้หวัน
ไต้หวันมีผู้ประกอบการ SMEs เป็นจำนวนกว่า 1.55 ล้านราย ครองสัดส่วนอุตสาหกรรมภายในประเทศกว่าร้อยละ 98 อีกทั้งยังสร้างโอกาสงานให้กับประชาชนในประเทศกว่าร้อยละ 80 ปธน.ไช่ฯ จึงขอขอบคุณผู้ประกอบการ SMEs ด้วยใจจริงที่ได้สำแดงพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการสร้างเสถียรภาพต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานในภาพรวมของไต้หวัน
สำหรับผู้ประกอบการชาวไต้หวันในต่างแดน ต่างก้าวข้ามอุปสรรคด้านภาษาและวัฒนธรรม เพื่อขยายรากฐานธุรกิจไต้หวันในต่างประเทศ ตลอดจนเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างไต้หวันและทั่วโลก
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า สองปีที่ผ่านมาที่ทั่วโลกต่างเผชิญหน้ากับความท้าทายจากโรคโควิด - 19 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไต้หวันในปีที่แล้วยังคงมีการขยายตัวในทิศทางเชิงบวก ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่มีแนวโน้มเช่นนี้
เมื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายที่เกิดจากสถานการณ์โควิด – 19 รัฐบาลได้เร่งผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่า จะช่วยให้ทุกคนสามารถก้าวผ่านอุปสรรคไปได้อย่างราบรื่น
ในปี 2019 รัฐบาลได้มีการบังคับใช้ “แผนปฏิบัติการด้านการลงทุนในไต้หวัน 3 ประการ” ในจำนวนนี้ วงเงินสินเชื่อที่อนุมัติให้สำหรับผู้ประกอบการในกลุ่ม “หยั่งรากฐานในไต้หวัน” และ “ผู้ประกอบการ SMEs” ได้อนุมัติไปเต็มจำนวนแล้วในต้นปีที่ผ่านมา โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้อัดฉีดวงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้น 150,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการอย่างเต็มที่
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า ในปลายปีนี้ ไต้หวันจะจัดให้มีการออกเสียงประชามติ รวม 4 ประเด็น ซึ่งผลการออกเสียงประชามติจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและการพัฒนาในทุกภาคส่วนของไต้หวัน โดยเฉพาะก่อนที่รัฐบาลจะคำนึงถึงการร่างนโยบายในประเด็นที่เกี่ยวข้อง จะมีการจัดการประชุมสัมมนา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาสังคม เพื่อให้ได้ฉันทามติที่จะสามารถสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติต่อไป