New Southbound Policy Portal
ฟงซัน (豐山) ฟงหลี่ (豐裡) ฟงผิง (豐坪) ทั้ง 3 หมู่บ้าน ในอดีตเรียกรวมกันว่าฟงเถียน (豐田) เคยเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวญี่ปุ่น มีร่องรอยของผังเมืองแบบตารางหมากรุกที่เป็นระเบียบและแฝงด้วยกลิ่นอายทางวัฒนธรรม
ย่างเข้าเดือนสิงหาคม ที่ร้าน 5 Way House หรืออู่เว่ยอู แปลว่า ร้าน 5 รส (五味屋) ซึ่งตั้งในเขตพื้นที่ฟงเถียน เมืองฮัวเหลียน มีต้นกระเจี๊ยบงอกขึ้นมาโดยไม่ได้คาดหวัง เพราะหลังจากโปรยเมล็ดพันธุ์ไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผ่านมา 2-3 เดือน ในกระถางจึงเริ่มมีต้นอ่อนงอกขึ้นมาราวกับเป็นเด็กน้อยที่แข็งแรงพร้อมเผชิญโลก การปลูกต้นกระเจี๊ยบนั้น หากต้นอ่อนมีดินดี ระบายน้ำดี มีผู้ดูแลถอนวัชพืช ก็จะเติบโตแข็งแรง เฉกเช่นอุดมการณ์ของ 5 Way House ในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในหมู่บ้านอย่างเหมาะสมเพื่อให้เด็กๆ มีชีวิตที่ดีขึ้น อยู่เคียงข้างให้กำลังใจต่อสู้ความยากลำบาก เพื่อให้เด็กๆ ในหมู่บ้านเติบโตและมีชีวิตอันสง่างามอย่างมีเอกลักษณ์
เวลา 9 โมงเช้าของวันสุดสัปดาห์ เด็กๆ ต่างก็ทยอยมาถึงร้าน 5 Way House ทุกคนทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ปัดกวาดสถานที่ จัดเรียงสินค้า เตรียมเปิดร้านขายของมือสองการกุศล ในพื้นที่ทำงานทั้งผู้ใหญ่และเด็กโตนำพาเด็กเล็กจัดการสิ่งของต่างๆ เช่น เปิดกล่อง ทำการวิเคราะห์ หารือกันเพื่อตั้งราคา วางของขึ้นหิ้ง สิ่งที่ได้รับบริจาคมาเหมือนกับเป็นของแปลกใหม่ “นี่คืออะไร มาจากไหนนะ ของดีอย่างนี้ทำไมเจ้าของไม่ต้องการ จะขายเท่าไหร่ดี ขายแพงเกินไปก็ขายไม่ออก ขายถูกเกินไปก็รู้สึกเสียเปรียบ...”
ในกระบวนการต่างๆ เด็กๆ ได้เรียนรู้การจดจำตัวหนังสือ แสดงความเห็น การคำนวณตัวเลขพฤติกรรมทางการค้า เรียนรู้การแยกแยะระหว่างความต้องการมีกับความจำเป็นต้องมี เมื่อลูกค้าแบบต่างๆ เดินเข้ามาในร้าน แล้วสอบถามราคา ต่อรองราคา หรือมานั่งพูดคุยสนทนา ทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้จากสถานการณ์จริง ดังคำกล่าวที่ว่าชีวิตคือการเรียนรู้ในทุกแห่งหน ในทุกมุมมีเสียงหัวเราะเฮฮา นี่คือชีวิตประจำวันของร้าน 5 Way House
จุดเริ่มต้นของ 5 Way House
5 Way House เป็นร้านขายสินค้ามือสองการกุศล ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟฟงเถียน เมืองฮัวเหลียน เป็นบ้านเก่าๆ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน หลังคารูปทรงปั้นหยามุงด้วยใบอ้อย เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ตึกที่เก่าทรุดโทรมนี้ประสบชะตากรรมจะต้องถูกรื้อถอน แต่ชาวบ้านเห็นว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ในปี 2008 คนในท้องถิ่นจึงร่วมกันเรียกร้องให้อนุรักษ์ไว้ และเชิญอาจารย์กู้อวี๋จวิน (顧瑜君) ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาฮัวเหลียนอย่างยาวนานมาช่วยพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ถูกปล่อยว่างร้างแห่งนี้
อาจารย์กู้อวี๋จวิน จบการศึกษาจากคณะสังคมศาสตร์ สาขาสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติจงซิง (National Chung Hsing University) และไปศึกษาต่อที่สหรัฐฯ กลับมารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมอาจารย์ที่ฮัวเหลียนในปีค.ศ.1995 ผ่านไป 10 กว่าปี แม้จะสามารถผลิตอาจารย์ที่มีความห่วงใยต่อการศึกษาในชนบทออกมาได้อย่างต่อเนื่อง แต่ค่านิยมหลักของชนบทยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คนหนุ่มสาวต้องการหนีออกไป เหลือแต่ประชากรกลุ่มเปราะบาง อาจารย์กู้อวี๋จวินเห็นสภาพบ้านเมืองทรุดโทรม จึงคิดว่าประสบการณ์จากการทำงานสังคมสงเคราะห์และการศึกษา จะช่วยพัฒนาให้เกิดการศึกษาชนบทในอุดมคติและปรับปรุงปัญหาความด้อยโอกาสได้ ในที่สุด อาจารย์กู้อวี๋จวินจึงเป็นผู้นำในการจัดตั้งร้านขายสินค้ามือสองการกุศลที่นี่ โดยตั้งชื่อว่า 5 Way House (五味屋) เป็นกิจการไม่แสวงผลกำไร ชื่อร้านในภาษาจีนคือ “อู่เว่ยอู” แปลว่า ร้านแห่งรสชาติทั้ง 5 ถือเป็นสถานที่ที่เปิดประตูให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน จึงเป็นสถานที่เต็มไปด้วยรสชาติ เปรี้ยว หวาน ขม เผ็ด เค็ม ของรสชาติแห่งชีวิต
เด็กแต่ละคนก็คือส่วนประกอบของการจัดแสดง
อาจารย์กู้อวี๋จวินบอกว่า “ร้าน 5 Way House เป็นสถานที่เรียนรู้ทักษะต่างๆ ของเด็กในหมู่บ้าน” ผู้ใหญ่นำพาเด็กๆ ซ่อมแซมฝาผนัง ทาสี ประดิษฐ์หิ้งวางสินค้าโดยทำขึ้นเองจากกล่องกระดาษ นำเครื่องเรือนเก่ามาประกอบขึ้นใหม่ โต๊ะชุด 5 ตัว เหลือ 3 ตัว แม้สีของขาโต๊ะจะไม่เหมือนกัน แต่ก็ใช้งานได้
เด็กๆ จะได้รับแต้มสะสมจากการทำงานที่ 5 Way House ซึ่งสามารถนำไปแลกเป็นสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันหรือใช้เข้าร่วมกิจกรรม อย่างเช่น การไปปีนเขา การเที่ยวรอบเกาะ หากเด็กๆ อยากเรียนกีตาร์ก็จะหาอาจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติตงหัว (National Dong Hwa University) มาสอน โดยเด็กๆ สามารถนำแต้มไปเปลี่ยนเป็นคอร์สเรียนกีตาร์ได้ 5 Way House ส่งเสริมให้เด็กๆ กล้าฝันและร่วมสร้างความฝันของเด็กๆ ให้เป็นจริง ส่งเสริมให้เด็กๆ มีพลังวิ่งไล่ความฝัน ไม่ใช่คิดเพียงว่าเกิดในชนบทก็รอความช่วยเหลือจากภายนอกเท่านั้น
เด็กๆ ที่มาถึง 5 Way House มักจะมีปัญหาชีวิตที่แตกต่างกัน เช่น พ่อแม่แยกทางกัน ต้องไปอยู่กับญาติ พ่อแม่ทำงานลำบากฐานะทางบ้านไม่ดี ไม่สามารถเลี้ยงดูลูก เป็นต้น สภาพแวดล้อมที่ลำบากเหล่านี้มีผลต่อตัวของเด็ก ทำให้ไม่อยากเรียนหนังสือ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ทำให้อาจารย์ต้องหนักใจ อาจารย์กู้
อวี๋จวินจึงนำเอาแนวความคิดการจัดนิทรรศการมาใช้กับเด็กๆ “เด็กแต่ละคนก็คือผลงาน 1 ชิ้น จะต้องมองพวกเขาในแบบใหม่ เข้าใจและยอมรับสภาพที่เป็นจริงของพวกเขา พวกเราไม่ต้องการเพียงแค่ปั้นแต่งให้พวกเขาดูดีเท่านั้น”
ขอให้ช่วยกันรักผู้ปกครองของฉันด้วย
ที่ 5 Way House การเรียนรู้ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะที่ตัวเด็ก แต่เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่และเด็กเรียนรู้ร่วมกัน แม้ว่าสภาพผู้ปกครองไม่ดี แต่เมื่อมีโอกาส เด็กๆ ก็อยากจะอยู่ใกล้กับพ่อแม่เสมอ “เด็กๆ แสดงออกผ่านพฤติกรรมออกมาอย่างต่อเนื่องว่า แม้อาจารย์หรือเพื่อนๆ จะมองพ่อแม่ฉันอย่างไร ฉันก็ยังรักพ่อแม่ของฉัน” อาจารย์กู้อวี๋จวินบอก
ดังนั้น อาจารย์กู้อวี๋จวินจึงเปลี่ยนการยึดมั่นว่าผู้ใหญ่จะต้องมีจิตสำนึกที่ดีด้วยตนเอง มาเป็นการพยายามสร้างสัมพันธภาพใหม่กับผู้ปกครองที่ทำตัวไม่เหมาะสมกับความคาดหวังของสังคม โดยเชิญพวกเขามานั่งที่ร้าน คนที่รู้สึกกระดากไม่อยากมา อาจารย์กู้อวี๋จวินก็จะหาอุบายขอร้องให้เขามาช่วยเปลี่ยนหลอดไฟ เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองกับเด็กได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม หรือแม้แต่สร้างงานในท้องถิ่นเพื่อให้ผู้ปกครองที่ไปทำงานต่างถิ่นได้กลับมา พ่อแม่ลูกจะได้อยู่ร่วมกัน
ในวันที่ไปสัมภาษณ์ มีเด็กซนคนหนึ่งได้ตัดผมแหว่งเป็นจุดตามแฟชั่น อากงอาม่าของเด็กเป็นคนหัวโบราณ และค่อนข้างมีอารมณ์ร้อน เชื่อว่าเด็กกลับไปอาจจะถูกตีและดุว่า การแก้ภาวะวิกฤตแบบนี้ 5 Way House จะไม่เรียกร้องให้ผู้ปกครองหยุดการดุว่าเด็ก แต่จะมีเจ้าหน้าที่กลับบ้านไปพร้อมกับเด็ก และถูกดุว่าไปด้วยกัน เพื่อให้เด็กรู้สึกสำนึกผิด การอยู่เคียงข้างร่วมรองรับอารมณ์ของผู้ปกครอง ทำให้ผลสุดท้ายเด็กถูกลงโทษโดยให้ยืนเท่านั้น การไม่ต่อต้านผู้ปกครองต่อหน้าเด็ก ไม่ทำให้เด็กรู้สึกเกิดความลำบากใจเป็นความอ่อนโยนที่พิเศษที่เหล่าผู้ใหญ่ของ 5 Way House มีให้อยู่เสมอ
น้ำใจจากคนในหมู่บ้าน
5 Way House เติบโตผ่านกาลเวลา 10 ปี ร้านขายของมือ 2 มีความมั่นคง และมีเครือข่ายธุรกิจแตกแขนงเพิ่มขึ้น ได้แก่ ร้าน Feng Yi Shi (ร้านเสื้อผ้ามือสอง) แผงอาหารจู๋เมิ่งท่าสือ (夢踏食) ห่างจาก 5 Way House ไปด้านหลังมี Jian Xing Workshop พื้นที่ประมาณ 400 ตร.ม. เป็นสถานที่สำหรับทำงานไม้ของเด็กๆ และจัดตลาดนัดสำหรับขายสินค้า โดยยังมีสาขากระจายอยู่ในจุดอื่นๆ ของชุมชน กล่าวคือมี สวนกระเจี๊ยบ, Dream House (เป็นสถานที่ซึ่งเหล่าเด็กโตร่วมกันปรุงอาหาร นั่งเขียนการบ้าน), 5 Way Bookstore (ร้านหนังสือมือสอง) และเกสต์เฮาส์การกุศล 2 แห่ง คือ Grandma’s House และ Feng Tian Hostel
ร้านสาขาเป็นสิ่งที่งอกขึ้นมาเอง เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีการวางแผนแต่แรก 5 Way House เป็นสิ่งที่ประชาชนในสังคมช่วยให้การสนับสนุน เมื่อมีสถานที่ว่างก็จะแนะนำให้ อาจารย์กู้อวี๋จวินนำไปใช้ประโยชน์โดยไม่เก็บค่าเช่าและไม่ได้คิดถึงเรื่องการค้า เด็กๆ จะต้องช่วยกันขบคิดในการใช้สถานที่และทรัพยากรต่างๆ จึงได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และฝึกการบริหารจัดการ ในทุกสถานที่ล้วนแต่มีร่องรอยการเรียนรู้ของเด็ก ในเดือนสิงหาคมปีนี้ 5 Way House มีสถานที่แห่งใหม่ โรงภาพยนตร์มุงเหล็กแผ่น เป็นที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันของคนในชุมชน ผู้สูงวัยใช้เป็นที่อบรมความรู้และดูภาพยนตร์ ยังได้เปิดให้นักศึกษาที่มาจากประเทศอาเซียนของมหาวิทยาลัยแห่งชาติตงหัว เลือกหาภาพยนตร์มาฉายเพื่อให้แรงงานต่างชาติและผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวอาเซียนมาชมกัน
เด็กๆ ร่วมกันตกแต่งรูปลักษณ์ของหมู่บ้าน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนรู้จัก 5 Way House มากขึ้น มีกลุ่มคณะทั้งจากในและต่างประเทศมาเยี่ยมเยือน กลุ่มคนทำงานจะทำความเข้าใจกับวัตถุประสงค์และความคาดหวังของผู้มาเยี่ยมเยือน เด็กๆ ช่วยกันจัดโปรแกรม ในวันต้อนรับ เด็กๆ แบ่งงานกันทำ มีผู้นำชม มีผู้ช่วยสร้างบรรยากาศ เด็กเมืองรู้สึกตื่นเต้นต่อธรรมชาติที่ได้สัมผัส ส่วนใบหน้าของเด็ก 5 Way House ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นและยอมรับต่อวิถีชีวิตแห่งชนบท
5 Way House ขับเคลื่อนไปวันต่อวัน ปรับเปลี่ยนการตอบสนองต่อสภาพของเด็กๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พวกเขาเติบโตแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับการดูแลดอกกระเจี๊ยบที่ปล่อยให้เติบโตตามธรรมชาติของอาจารย์กู้อวี๋จวิน “ตอนนี้ก็เหมือนกับพวกเราวางรากฐานให้ดี จัดเตรียมดิน ดูว่าจะปลูกอะไร สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่เด็กๆ เพื่อให้พวกเขาเติบโตขึ้นในแบบที่เขาต้องการ จนกลายเป็นสิ่งที่ดูแล้วน่าสนใจ” อาจารย์กู้อวี๋จวินกล่าว