New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 17 พ.ย. 64
เมื่อช่วงที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Peter Stefanovic ผู้สื่อข่าวรายการ The Sky News Australia ของออสเตรเลีย ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยบทสัมภาษณ์ดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ผ่านสารคดีพิเศษที่ทางรายการจัดทำขึ้นภายใต้ชื่อ “การผงาดขึ้นของจีน” (China Rising) ในวันที่ 17 พ.ย. โดยผู้สื่อข่าวได้ร่วมพูดคุยเชิงลึกในประเด็นต่างๆ กับรมว.อู๋ฯ อาทิ การข่มขู่ไต้หวันของรัฐบาลจีน ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - ออสเตรเลีย และสถานการณ์ความคืบหน้าล่าสุดในฮ่องกง เป็นต้น
ต่อกรณีที่รัฐบาลจีนข่มขู่ไต้หวันทั้งทางกำลังทหารและทางการทูต ในช่วงหลายปีมานี้ รมว.อู๋ฯ ชี้แจงว่า การโจมตีด้วยกำลังอาวุธของจีนที่มีต่อไต้หวันมีความเป็นไปได้อยู่ตลอดเวลา โดยจะเห็นได้จากการที่จีนได้จัดตั้งกองทัพเรือและกองทัพอากาศที่มีความทันสมัย รวมถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นการข่มขู่ไต้หวัน อาทิ สงครามจิตวิทยา สงครามทางกฎหมายและการคุกคามทางกำลังทหาร พร้อมทั้งขัดขวางไม่ให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันตั้งอยู่ในแนวหน้าของการปกป้องประชาธิปไตย ยึดมั่นในการคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตที่มีเสรีภาพและประชาธิปไตย เมื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากจีนในทุกด้าน ไต้หวันนอกจากจะเสริมสร้างความมุ่งมั่นตั้งใจในการปกป้องประเทศแล้ว ยังจะเร่งเสริมสร้างแสนยานุภาพด้านกลาโหมอย่างกระตือรือร้น เพื่อยกระดับแสนยานุภาพทางการทหารที่ขาดความสมดุล ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ความมั่นคงและการแลกเปลี่ยนข้อมูลความเคลื่อนไหวล่าสุดกับประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันต่อไป
รมว.อู๋ฯ ชี้แจงว่า ไม่มีประเทศใดในโลกสามารถหลีกเลี่ยงการข่มขู่และแรงกดดันจากจีนได้ ด้วยเหตุนี้ ประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันจำเป็นต้องประสานความร่วมมือ ให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก ไต้หวันและออสเตรเลียแม้จะไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ แต่ทั้งสองฝ่ายได้จัดตั้งสำนักงานตัวแทนขึ้นในดินแดนระหว่างกัน มีผลประโยชน์และค่านิยมที่ยึดมั่นร่วมกัน ซึ่งหลายปีมานี้ ความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน - ออสเตรเลีย มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อันจะเห็นได้จากที่ทั้งสองประเทศร่วมแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือระหว่างกันอย่างแนบแน่น ไต้หวัน – ออสเตรเลียต่างก็เป็นประเทศประชาธิปไตย ที่เผชิญหน้ากับภัยคุกคามและแรงกดดันจากจีน จึงควรต้องให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน และเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์แบบทวิภาคีจะเกิดความแนบแน่นยิ่งขึ้น
ต่อกรณีสถานการณ์ล่าสุดในฮ่องกง รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า สถานการณ์ในไต้หวันและฮ่องกงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง รัฐบาลจีนไม่เคยได้เข้าครอบครองหรือปกครองไต้หวันเลย เนื่องจากไต้หวันมีรัฐบาลเป็นของตนเอง และมีกองทัพที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์ สถานการณ์ความคืบหน้าในฮ่องกงเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ที่จีนให้คำมั่นไว้ ไม่มีอยู่จริง ซึ่งประชาชนชาวไต้หวันไม่มีวันยอมรับต่อรูปแบบดังกล่าวแน่นอน