New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 30 พ.ย. 64
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. สมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศส ลงมติผ่าน “ญัตติว่าด้วยการยอมรับให้ไต้หวันเข้าร่วมในภารกิจและแพลตฟอร์มความร่วมมือแบบพหุภาคีในสังกัดองค์การระหว่างประเทศ” แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลฝรั่งเศสให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ อาทิ การประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (INTERPOL) และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) โดย Mr. Jean-Baptiste Lemoyne รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศสได้ยืนยันชัดเจนว่า รัฐบาลฝรั่งเศสมีจุดยืนเดียวกันในการให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมอย่างมีความหมายในองค์การระหว่างประเทศ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 พ.ค. วุฒิสภาแห่งฝรั่งเศสได้มีมติผ่าน ญัตติให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศ ในครั้งนี้ สมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศสก็ได้ลงมติผ่านญัตติที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน เพื่อร่วมเป็นกระบอกเสียงสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มกำลัง กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ทุกพรรคการเมืองฝรั่งเศส ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างเห็นพ้องกันที่จะให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
ญัตติในครั้งนี้มี Mr. François de Rugy ประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในสมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศส ทำหน้าที่เป็นแกนนำในการรวบรวมสมาชิกสมัชชารวม 183 คน จาก 7 พรรคการเมือง ร่วมลงนามในการยื่นเสนอต่อรัฐบาลฝรั่งเศส โดยสาระสำคัญในญัตติดังกล่าวระบุถึง การให้การยอมรับต่อประสบการณ์ด้านการป้องกันโรคระบาดและการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่ประสบความสำเร็จของไต้หวัน อีกทั้งยังเห็นว่า การที่ไต้หวันถูกกีดกันให้อยู่นอกระบบขององค์การระหว่างประเทศ จะส่งผลเสียต่อประโยชน์ร่วมกันของประชาคมโลก
ไต้หวันและฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ที่ต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตย เสรีภาพและสิทธิมนุษยชน ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปอย่างใกล้ชิด ในอนาคต ไต้หวันจะทำหน้าที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของประชาคมโลกที่มีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งร่วมเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศสด้วย ทั้งนี้ เพื่อร่วมเสริมสร้างคุณประโยชน์ในด้านสันติภาพ เสถียรภาพ สุขภาพและความเจริญรุ่งเรืองให้เกิดแก่ประชาคมโลกสืบไป